“เดลี่ เมล์” สื่อประเทศอังกฤษ รายงานว่า ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ “ไอ้ป้นใหญ่” อาร์เซน่อล ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนอาร์แซน เวนเกอร์ ซึ่งประกาศอำลาตำแหน่งล่วงหน้าจบฤดูกาลนี้ จะได้งบประมาณเสริมทัพซีซั่นหน้าแค่ 50 ล้านปอนด์ (2,200 ล้านบาท / อัตรา 1 ปอนด์ 44 บาท) ทั้งที่ 2 ฤดูกาลล่าสุด เวนเกอร์ได้เงินซื้อนักเตะมากเกือบ 200 ล้านปอนด์ (8,800 ล้านบาท) เลยทีเดียว
สาเหตุสำคัญที่ทำให้อาร์เซน่อลมีเงินให้โค้ชคนใหม่เพียงครึ่งร้อยล้านปอนด์ และนับว่าน้อยมากสำหรับค่าตัวนักฟุตบอลที่เฟ้อในยุคนี้ เนื่องจากสโมสรเพิ่งลงทุนซื้อปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง จากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 56 ล้านปอนด์ (2,464 ล้านบาท) และอเล็กซ็องด์ ลากาแซ็ต จากโอลิมปิก ลียง 46.5 ล้านปอนด์ (2,046 ล้านบาท) เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังต้องเพิ่มค่าจ้างในการต่อสัญญาฉบับใหม่กับเมซุต โอซิล อีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญ 1 เท่าตัว หรือ 350,000 ปอนด์ (15.4 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ ตามด้วยค่าเหนื่อยระดับใกล้เคียงกันกับ 2 นักเตะดังผู้มาใหม่ โอบาเมย็อง และเฮนริก มาคิตาร์ยาน จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกทั้งมีกระแสข่าวว่า ต้องเสียเงินชดเชยที่เวนเกอร์ยอมแยกทางกับทีม ทั้งที่เหลือสัญญาอีก 1 ปี อีก 11 ล้านปอนด์ (484 ล้านบาท)
ส่งผลให้กุนซือคนใหม่ ซึ่งมีตัวเต็งอย่างหลุยส์ เอ็นริเก้ อดีตกุนซือบาร์เซโลน่า, โยอาคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมนี, มักซิมิเลียโน่ อัลเลกรี กุนซือยูเวนตุส และปาทริก วิเอร่า อดีตตำนานกองกลางของทีมที่ปัจจุบันเป็นกุนซือนิวยอร์ก ซิตี้ ในเมเจอร์ลีกสหรัฐ ที่เดลี่ เมล์ เชื่อว่าเป็น 4 กุนซือที่มีโอกาสคุมอาร์เซน่อลมากที่สุด จะมีงบประมาณที่จำกัดจำเขี่ยซีซั่นหน้า
อย่างไรก็ตาม วิเอร่าที่เพิ่งพานิวยอร์ก ซิตี้ พบความพ่ายแพ้เกมลีกครั้งแรกฤดูกาลนี้จาก 8 นัด ต่อเจ้าถิ่นปอร์ตแลนด์ ทิมเบอร์ส ขาดลอย 0-3 ปฏิเสธพูดถึงข่าวลือคุมทีมปืนใหญ่ เพราะต้องการมีสมาธิกับการคุม “ทีมลูก” ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มากกว่า
