“บิ๊กตู่”ลั่นไม่เคยดูดใคร เหน็บ ย้อนดูพรรคตัวเอง ดูแล ส.ส.-ลูกพรรคดีหรือไม่(คลิป)

“บิ๊กตู่” ย้ำอีก ไม่เคยดูดใคร เหน็บย้อนดูพรรคตัวเอง ดูแล ส.ส.-ลูกพรรคดีหรือไม่ ปัดตอบดูด คนตระกูลชิดชอบเป็นรายต่อไป วอน อย่าใช้คำตามนักการเมือง 

เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 24 เมษายน ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่า คสช.เดินสายใช้พลังดูด กับอดีตนักการเมืองโดยใช้ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นตัวล่อ ว่า “ผมบอกแล้วว่า ผมไม่ใช่เครื่องดูดอากาศ หรือ เครื่องดูดฝุ่น เพราะฉะนั้นต้องไปดูว่า ข้อกล่าวหาที่ว่า คสช. หรือรัฐบาลนี้จะไปบังคับคนนั้นคนนี้ บังคับนักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชน ผมจะเอาอำนาจอะไรไปบังคับเขาเหล่านั้น ดังนั้น คำพูดดังกล่าวก็เป็นเรื่องของท่านเอง การที่บอกว่า นักธุรกิจจะต้องสนับสนุนสิ่งต่างๆให้กับนักการเมืองและพรรคการเมืองนั้น ควรไปดูข้อกฎหมายว่าทำได้หรือไม่ เพราะถ้ากฎหมายระบุว่าทำไม่ได้ ก็ทำไม่ได้อยู่ดี เรื่องนี้ ไม่ต้องไปห้ามใครเขา และเรื่องเหล่านี้ก็มีการตรวจสอบกันอยู่แล้ว” 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่า ตระกูลชิดชอบจะเป็นกลุ่มรายต่อไปที่ คสช.และรัฐบาลจะดูดเข้ามาเป็นพรรคพวก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ทุกคนไปใช้คำดังกล่าว ตามที่นักการเมืองพูดออกมา เพราะการที่จะกล่าวว่าใครดูดใคร ก็ต้องไปดูว่า ผลงานของพรรคการเมืองของเขาที่ผ่านมาเป็นอย่างไร มีการดูแลสมาชิกพรรค ส.ส.ทุกคนมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นและนำความต้องการของประชาชนไปสู่การขับเคลื่อนของพรรคหรือไม่ ในขณะที่พรรคอื่นเป็นรัฐบาล หรือไม่ได้เป็น ได้ให้ความสำคัญกับสมาชิกที่เป็นลูกพรรคหรือไม่แค่ไหน หรือให้ความสำคัญไม่เพียงพอ

Advertisement

“ผมเข้าใจว่านักการเมืองทุกคน อยากเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง แต่ก็มักไปติดที่นโยบายพรรค นโยบายหัวหน้าพรรค หรือผู้สนับสนุน แต่ยืนยันว่า คสช. ไม่มีใครมีบทบาทเหนือตรงนี้ เราสามารถที่จะทำงานทุกอย่าง อย่างเป็นอิสระ ดังนั้นขอให้กลับไปดูที่ผลงาน ใครจะดูดหรือถูกดูดก็เป็นเรื่องของเขา และขอให้ไปดูแลสมาชิกของท่านให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ผมเคยฟังนักการเมืองพูดว่า การเข้ามาทำงานให้ประเทศสำหรับพรรคการเมืองที่ได้เข้ามาเป็นรัฐบาลก็อยากจะทำงานให้ครบตลอด 4 ปี ตามอายุรัฐบาล แต่ก็ทำไม่ได้มากนัก ช่วง 2 ปีแรกก็เริ่มทำงานได้ดีอยู่ แต่หลังจากปีที่ 2 ไปแล้ว มันทำไม่ค่อยได้ เพราะต้องเตรียมตัวยุบสภา เขาพูดกับผมแบบนี้เลย เพราะฉะนั้นเขาอาจจะต้องทำอะไรต่างๆ ตามแนวทางนโยบายของพรรคและหัวหน้าพรรค ซึ่งมันไม่ถูกต้อง การที่จะเป็นรัฐบาล ไม่ว่าจะมากหรือน้อย จะต้องร่วมมือให้ได้ทั้งฝ่านค้านและรัฐบาล ต้องดูแลทั้งสองฝ่าย บอกแล้วไงว่า ประชาธิปไตย คือต้องปฏิบัติตามเสียงส่วนใหญ่ ขณะเดียวกัน ก็ต้องดูแลเสียงส่วนน้อย ซึ่งเป็นฝ่ายค้านด้วย ว่าจะทำอย่างไรให้พื้นที่ และประชาชนในพื้นที่ของฝ่ายค้านได้ประโยชน์ด้วย ก็จะลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ รวมทั้งการกระจายรายได้ ที่ผ่านมาก็มีการโทษกันไปมา ว่ารัฐบาลนี้รัฐบาลนั้นตัดงบประมาณในพื้นที่ต่างๆ ที่ไม่ใช่ของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาการลงพื้นที่เดินสายหาเสียงยังทำไม่ได้เลย แล้วมันจะพัฒนาประเทศได้อย่างไร”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากขอร้องว่า รัฐบาลหน้าไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาลก็ต้องร่วมมือกันในกิจการที่จะก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ประชาชนทั้งประเทศได้ประโยชน์ ไม่ใช่ได้ประโยชน์เฉพาะพื้นที่ที่เป็นฝ่ายรัฐบาลอย่างเดียว ตนตั้งใจแบบนี้ในการที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ทุกคนที่เข้ามาทำงานการเมือง ไม่ต้องไปกลัวอะไรทั้งสิ้นจะเลือกตั้งเมื่อไหร่มันอยู่ที่ว่าเราจะบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างไรให้โปร่งใส เป็นธรรม ไม่เช่นนั้นก็จะมีการซักฟ้องคัดค้านอภิปรายกันไปเรื่อย เหมือนที่ผ่านมาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้สักอย่าง คสช. และรัฐบาลเข้ามาทำงานตรงนี้ไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร รัฐบาลเป็นเหมือนคนกลางที่เข้ามาในสถานการณ์วันนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา รัฐบาลนี้ก็จะต้องอยู่ตรงกลาง และทำทุกอย่างไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านในวันข้างหน้าก็จะต้องร่วมมือกันให้ได้ รัฐบาลมุ่งหวังเพียงเท่านั้น

เมื่อถามว่า มีเสียงสะท้อนว่าหากนายกฯจะดึงนักการเมืองก็ควรดึงนักการเมืองที่ดีๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “แน่นอน แต่อะไรคือที่ว่าดีๆ ที่ดีๆคืออะไร หลายคนอาจจะอยากทำความดี แต่มันทำดีไม่ได้ ท้ายที่สุดถูกนโยบายพรรค ถูกอะไรต่างๆ มันก็ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแปลง ปรับตัวเองก็เลยเสียไปทั้งหมด ผมไม่ได้รังเกียจนักการเมือง หากใครมาแสดงบทบาทว่าจะร่วมกันพัฒนาประเทศ ทำเพื่อประเทศชาติ เราจะไม่ทำการเมืองแบบเดิมๆ ผมก็ยินดีกับทุกคน จะมาอยู่ตรงไหนก็อยู่ไปเถอะ วันหน้าเขาเลือกตั้งมาเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องหาคนที่จะทำให้การทำงานเดินหน้าไปได้ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เพราะส.ส.ต้องรับผิดชอบดูแลทุกข์สุขให้ประชาชน ฉะนั้นก็ต้องดูแลส.ส.ทั้งสองฝ่าย ในเรื่องการจัดทำแผนโครงการให้เกิดความทั่วถึงลดความเหลื่อมล้ำ”

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มีความเหลื่อมล้ำมากมายในทุกพื้นที่ ทั้งถนนหนทาง การเกษตร ไม่ได้สร้างแบบฟอร์มรองรับเอาไว้ รัฐบาลนี้กำลังทำรูปแบบขึ้นมาทั้งกฎหมาย กระบวนการทุกกิจการให้แต่ละพื้นที่มีศักยภาพมากน้อยตามลำดับ เพื่อให้เกิดการแข่งขันแบ่งปัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายกฯ แถลงข่าวเสร็จสิ้น ได้เดินออกจากโพเดียมอย่างอารมณ์ดี เมื่อผู้สื่อข่าวได้กระเซ้าว่า ดูนายกฯแก้มตอบไป ขณะที่นายกฯ กล่าวตอบว่า “ไม่ได้ไปเสริมสวยแบบเธอ”

ผู้สื่อข่าวจึงชี้แจงว่าที่ถามว่าแก้มตอบหมายถึงการดูดนักการเมืองในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะไปดูดนักการเมืองอะไรยังไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคไหนเลย เมื่อถามอีกว่า แล้วนายกฯจะเป็นหัวหน้าพรรคใดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่รู้” เมื่อถามอีกว่า ไม่รู้แสดงว่าไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทันทีว่า “ไม่แสดงตอนนี้”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image