ผู้การอุดรฯ สั่งย้าย”ร.ต.อ” ถูกร้องรีดเงินเหยื่อ นายทุนดอกโหด

 

เมื่อวันที่ 24 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธร จ.อุดรธานี ย้ายนายตำรวจระดับ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี หนังสือระบุว่า ด้วยมีเหตุผลและความจำเป็นบางประการ อาศัยอำนาจตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 ข้อ 6 (2) และ ข้อ 8 (3) จึงให้ ร.ต.อ.สุรชัย บุญเอก รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ไปปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี โดยหนังสือคำสั่งออกตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2561

พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา นายบุญมี เนืองแก้ว อายุ 68 ปี และนางดวงสุมาลย์ โสภากุล อายุ 57 ปี ที่เป็นลูกหนี้นายทุนดอกเบี้ยโหด มาร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ว่ามีพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ เรียกร้องเงินค่าตอบแทนทำคดี ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนเดือดร้อน จากการเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ของนายทุน เริ่มต้นเจ้าของคดีทำดีอยู่แล้ว

“ เจ้าหนี้ยอมเจรจาตกลงกันกับผู้เสียหายบางส่วน ยินดีที่จะชดใช้ให้ นับว่าเป็นเรื่องดี คดีจะได้ไม่ต้องไปเป็นที่หนักใจของศาล ซึ่งก็ต้องคืนทรัพย์อยู่แล้ว เมื่อเจ้าของคดีทำดีมาอยู่แล้ว แต่ทำไมจึงเป็นอย่างนี้ เป็นเรื่องการขาดศีลธรรม ขาดจริยธรรม ที่ดีของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นจะต้องทำการสอบสวน หากพบทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ก็ต้องถูกลงโทษ แต่เนื่องจากขณะนี้เป็นเพียงการพูดคุยกัน ยังไม่ได้ทำการบันทึกปากคำ จากผู้เสียหายและพยานต่างๆ ถ้าพบว่ากระทำผิดแน่นอนว่า จะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ”

Advertisement

พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวต่อว่าถ้าสอบสวนไปถึงใครบ้าง รับรองว่าโดนหมดทุกคน ทั้งคนที่เป็นตัวการ เป็นตัวกลาง เป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือ คงละเว้นเพิกเฉยละเลยไม่ได้อีกแล้ว และขอยืนยันกับชาวบ้าน ซึ่งถูกทำทารุณกรรมมาจากนายทุนอยู่แล้ว ได้รับความเสียหายมาแล้ว ถ้ายังมาโดนกับพนักงานสอบสวน โดนตำรวจอย่างนี้อีก เขาจะอยู่กันยังไง ตำรวจเราเป็นที่พึ่งของประชาชน เราไปทำทับถมความสูญเสีย ความเสียหายของพี่น้องประชาชนอย่างนี้ต้องจัดการ บุคคลพวกนี้ต้องเอาออกไปจากสังคม ที่มีหน้าที่ในการแก้ปัญหาให้กับสังคม

“ คนเรากว่าจะจบการศึกษามา มันมีขั้นตอนในการอบรมบ่มนิสัยให้ความรู้ ตอนมาทำงานก็พยายามอบรมอยู่แล้ว มันเออเร่อไปเอง ไม่มีใครบังคับ ส่วนจะมีคนอื่น ๆ อีกไหม มีผู้กระทำผิดร่วมด้วยหรือไม่ มีคนไปเบรกชาวบ้านไม่ให้ร้องเรียนหรือไม่ เราจะสอบสวนลงไป ถ้ามีการทำแบบนี้จริง เราก็ต้องเอาผิดด้วย แต่จะผิดมากน้อยแค่ไหนต้องรอการตรวจสอบ ”พล.ต.ต.พีระพงศ์กล่าวและว่าวันนี้มีคำสั่งให้ตำรวจที่ถูกร้องเรียน มาปฏิบัติหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี โดยขาดจากต้นสังกัดเดิม และระหว่างที่ไปปฏิบัติราชการ ให้อยู่ในการควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติของ พ.ต.อ.ศักดา เหมือนโพธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี โดยการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว จะใช้ระยะเวลาภายใน 1 สัปดาห์ ถ้ามีมูลก็จะต้องตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย รวมถึงพนักงานสอบสวน ที่จะสอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 2 รายว่าผลเป็นเช่นไร คงต้องดูผลสรุปว่า จะเข้าข่ายความผิดอย่างอื่นอีกหรือไม่

 

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image