อดีต ส.ส.อ่างทอง ย้อนถาม’บิ๊กตู่’ 4 ปีทำไมเพิ่งแยกแยะได้ ทุกอาชีพมีคนดีและไม่ดี

เด็ก ชทพ. ชี้ ดึงนักการเมืองช่วยงานเป็นประโยชน์ เข้าถึงปชช.มากกว่า ย้อนถาม “บิ๊กตู่” 4 ปีทำไมเพิ่งแยกแยะได้ว่า ทุกอาชีพมีคนดีไม่ดีปนๆ กัน

เมื่อวันที่ 25 เมษายน นายภราดร ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีกระแสพลังดูดของรัฐบาลที่ดึงนักการเมืองเข้าร่วมงานว่า การแต่งตั้งนายสนธยาและนายอิทธิพล คุณปลื้ม จากพรรคพลังชลนั้น ตนเห็นด้วยกับความเห็นของนายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ได้พูดไว้ว่าเห็นด้วยที่นายกฯเห็นประโยชน์ของฝ่ายการเมือง เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า ทหารกับประชาชนมีช่องว่างอยู่มาก เพราะต้องยอมรับว่า การทำงานระหว่างทหารกับนักการเมืองแตกต่างกัน ทหารจะรับฟังการรายงานจากข้าราชการซึ่งข้อมูลถูกบ้างไม่ถูกบ้าง แต่นักการเมืองจะใกล้ชิดอยู่กับประชาชน ดังนั้น การนำนักการเมืองเข้ามาเชื่อว่าสุดท้ายน่าจะเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาของนักการเมืองจึงแก้ได้ถูกจุดมากกว่า เพราะเขารู้ปัญหาของชาวบ้านมากกว่า แต่สิ่งที่ต้องย้อนถามคือ ทำไม 4 ปีเพิ่งจะให้ความสำคัญนักการเมือง ทั้งที่ 4 ปีที่ผ่านมาคสช. พยายามนำเสนอต่อประชาชนว่า นักการเมืองเป็นคนเลว ทุจริต ทั้งๆ ที่กล่าวหาเป็นแค่ส่วนเดียว มีทั้งคนดี ไม่ดีปะปนกันไป จะเหมารวมไม่ได้ ตนเชื่อว่า วันนี้รัฐบาลเริ่มรู้ว่านักการเมืองมีทั้งดีและไม่ดีปนกัน จึงได้หยิบบางส่วนที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์มาเป็นที่ปรึกษา

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ารัฐบาลเอาตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีมาล่อ นายภราดรกล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ก็คิดเช่นนั้นได้ แต่ในความเป็นจริงจะต้องไปถามจากพรรคพลังชลมากกว่าว่าเจตนาคือการแลกประโยชน์กันหรือไม่ หรือมีเจตนาในการตั้งใจเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันในการแก้ไขปัญหาเรื่องอีอีซีปัญหาปากท้องชาวบ้านในพื้นที่ภาคตะวันออก

เมื่อถามว่า แล้วตอนนี้ถึงเวลาหรือยังที่ คสช.ควรปลดล็อกให้พรรคการเมือง นายภราดรกล่าวว่า อันที่จริงควรปลดล็อกมานานแล้ว เพราะเวลากินตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองที่มีเงื่อนเวลาในการที่พรรคการเมืองต้องปฏิบัติ แต่ตอนนี้พรรคการเมืองไม่สามารถทำตามเจตนาของกฎหมายได้ สุดท้ายก็อาจเกิดปัญหาขึ้นมาอีก ตนคิดว่าคสช.ไม่น่าที่จะกลัวการทำกิจกรรมของพรรคการเมือง ไม่อย่างนั้นอาจจะระบุไว้เลยว่า พรรคการเมืองทำอะไรได้บ้าง เช่น ประชุมใหญ่สามัญพรรค เรื่องสาขาพรรค เพื่อให้การทำกิจการพรรคเกิดความสมบูรณ์แบบ ไม่เช่นนั้นอาจมีการตีความอีกว่าเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ผิดกฎหมายหรือไม่ เราก็เกรงว่าเมื่อเวลากินตัวไปเรื่อยๆ แล้วถึงเวลาใกล้เข้ามาพรรคการเมืองทำเงื่อนไขของ พ.ร.ป.ไม่ได้ สุดท้ายแล้วจะนำไปสู่ความเสียหายของพรรคหรือไม่ จึงอยากให้ผู้มีอำนาจมองเพื่อให้การดำเนินการของพรรคการเมืองสอดคล้องกับ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ไม่ใช่ว่าเราตั้งใจที่จะทำกิจกรรมการเมืองเพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image