เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่แพทยสภา นพ.ชเนษฎ์ ศรีสุโข และ นพ.กิตติศักดิ์ อธิษฐ์เดชาภูมิ ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายแพทย์ผู้ปฏิบัติงานจริง พร้อมด้วยทนาย เดินทางมายื่นหนังสือถึง ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา นายกแพทยสภา เพื่อขอให้ปลด นพ.สุกิจ ทัศนสุนทรวงศ์ เลขาธิการแพทยสภา และขอดูรายงานการประชุมกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 และมติแพทยสภาในคดีแพทยสภาฟ้องนางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ โดยมี นายศุภวัฒน์ โพธิ์ทอง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายแพทยสภา เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ
นพ.ชเนษฎ์ กล่าวว่า แพทยสภามีการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อ นางปรียนันท์ ตั้งแต่ปี 2559 เนื่องจากมีการใช้ข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ทำให้ประชาชนเชื่อว่า แพทยสภาเป็นองค์กรที่ไม่ดี โดยมีการกล่าวหาแพทยสภาใน 5 ประเด็นคือ 1.แพทยสภาดึงเวลาสอบสวนคดีความฟ้องร้องแพทย์จนหมดอายุความ 1 ปี 2.แพทยสภา ล็อบบีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาทนายความ ราชวิทยาลัยแพทย์ ฯลฯ ให้ขอความเห็นแพทยสภาก่อนดำเนินการ และให้คดีฟ้องร้องแพทย์ไม่มีมูลแทบทุกคดี 3.แพทยสภา อบรมวิธีเขียนเวชระเบียนป้องกันการฟ้องร้อง 4.แพทยสภา อบรมพยานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อสู้กับคนไข้ และ 5.แพทยสภา ประกาศให้แพทย์ที่จะถูกตรวจสอบ ให้ทีมกฎหมายช่วยแก้ไขเวชระเบียน และทำเวชระเบียนสูญหาย ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยแพทยสภามีการฟ้องใน 2 คดีคือ คดีหมิ่นประมาท และคดีการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 และขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมโพสต์ข้อความของนางปรียนันท์ที่กล่าวหาแพทยสภา หลังจากถูกยื่นฟ้องร้องเป็นอีกหนึ่งคดี
นพ.ชเนษฎ์ กล่าวว่า คดีมีการพิจารณาไปเป็นอย่างดี จนกระทั่งวันที่ 20 เมษายน 2561 นพ.สุกิจ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตามมติกรรมการแพทยสภา ให้ไปเจรจาไกล่เกลี่ยแบบมีเงื่อนไข คือนางปรียนันท์ต้องดำเนินการขอขมาต่อแพทยสภา หรือแถลงต่อสื่อมวลชน เป็นต้น แล้วจะถอนฟ้องก็ค่อยดำเนินการต่อไป แต่ นพ.สุกิจ กลับหลงผิดไปถอนฟ้องเลยคดีหมิ่นประมาท โดยที่ยังไม่มีการไกล่เกลี่ยหรือดำเนินการตามเงื่อนไขเลย ถือเป็นการหักหลังวงการแพทย์ ละเมิดกฎหมายและมติของแพทยสภา จึงเดินทางมายื่นหนังสือขอให้ปลด นพ.สุกิจ ออกจากตำแหน่งเลขาธิการแพทยสภา โดยขอให้เแพทยสภาดำเนินการให้เร็วที่สุดภายใน 1 สัปดาห์ หากแพทยสภาไม่ดำเนินการ อาจเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา ที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
“การฟ้องร้องนางปรียนันท์ ไม่ได้ต้องการให้เข้าคุกแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการให้เกิดการพิสูจนในศาลว่าสิ่งที่นางปรียนันท์กล่าวหาต่อแพทยสภานั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งตามจริงแล้วโทษก็ไม่ได้ร้ายแรง และต้องการให้เป็นตัวอย่างเท่านั้น แต่การที่ นพ.สุกิจดำเนินการถอนฟ้องโดยละเมิดมติแพทยสภา จะกลายเป็นบรรทัดฐานให้คดีอื่นหรือสภาวิชาชีพอื่นว่าถูกกล่าวหาอย่างไรก็ถอนฟ้องได้ สำหรับกรณีดังกล่าวได้มีการพูดคุยกับ นพ.สุกิจแล้ว แต่ นพ.สุกิจไม่ได้บอกเหตุผลถึงการถอนฟ้อง บอกเพียงว่าจะมีการแถลงข่าว แต่ก็ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ” นพ.ชเนษฎ์ กล่าว
นพ.ชเนษฎ์ กล่าวอีกว่า เท่าที่ทราบคือ ศ.นพ.ประสิทธิ์ ได้ทำหนังสือลงวันที่ 23 เม.ย. 2561 ส่งถึงศาลแขวงนนทบุรี เพื่อคัดค้านกรณี นพ.สุกิจ ไปดำเนินการถอนฟ้อง แทนที่จะไกล่เกลี่ยตามมติของแพทยสภา โดยระบุวว่าเป็นการหลงผิด และเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2561 ยังทำหนังสืออีกหนึ่งฉบับสงถึงศาลแขวงนนทบุรีว่าได้ปลด นพ.สุกิจ ออกจากการเป็นผู้รับผิดชอบในคดีนี้
ด้าน นพ.สุกิจ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เนื่องจากขณะนี้ศาลยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคำร้องของแพทยสภา ซึ่งเป็นเรื่องภายใน ยังไม่สมควรเผยแพร่ออกไป หากขั้นตอนแล้วเสร็จ อาจจะมีการแถลงอีกครั้ง
