แหล่งข่าวจากแวดวงนักการทูตและเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป(อียู)เผยว่า อียูจะประกาศมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อพม่าภายในสัปดาห์นี้ โดยห้ามการค้าอาวุธให้กับพม่าออกไปอีกหนึ่งปี และอาจประกาศคว่ำบาตรโดยมุ่งเป้าไปยังนายพลของกองทัพพม่าอีกหลายคนเพิ่มเติม
ทั้งนี้อียูกล่าวหารัฐบาลพม่าว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและเป็นระบบภายใต้ปฏิบัติการของกองทัพในพื้นที่รัฐยะไข่ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อปีที่ผ่านมา จนส่งผลให้ชาวโรฮีนจาเกือบ 700,000 คนต้องละทิ้งถิ่นฐานกลายไปเป็นผู้อพยพในบังกลาเทศ
อียูได้มีคำสั่งห้ามการซื้อขายอาวุธกับพม่าซึ่งกำหนดจะสิ้นสุดลงในปลายเดือนเมษายนนี้ แต่เจ้าหน้าที่ของอียูเผยว่าอียูจะต่ออายุการห้ามการซื้อขายอาวุธดังกล่าวออกไปอีกหนึ่งปีก่อนที่คำสั่งดังกล่าวจะยุติลง นอกจากนี้ยังจะขยายการควบคุมการฝึกอบรมให้กับกองทัพพม่าอีกด้วย
แหล่งข่าวในอียูยังเปิดเผยด้วยว่าอียูอาจจะออกคำสั่งห้ามการออกวีซ่ารวมถึงการยึดทรัพย์สินของนายพลในกองทัพพม่าที่มีอยู่ในอียูภายในเดือนพฤษภาหรือมิถุนายนนี้เพิ่มเติม โดยหนึ่งในผู้ที่จะอยู่ในรายชื่อดังกล่าวคือนายพลหม่อง หม่อง โซ ซึ่งกำกับดูแลกองกำลังทางด้านตะวันตกของพม่าที่รวมถึงรัฐยะไข่ด้วย
วันเดียวกันมีรายงานด้วยว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังเร่งสอบสวนเชิงลึกต่อข้อกล่าวหาว่ามีการกระทำทารุณต่อชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ ทั้งการสังหาร ข่มขืน ทุบตี และการกระทำทารุณอื่นๆ ซึ่งอาจนำไปใช้ประกอบการยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ในกองทัพพม่าในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ(ไอซีซี)ในอนาคต