คุยนอกจอ โดย เอกราช เก่งทุกทาง: แอนตี้ฮีโร่

แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ สเปอร์ส ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ เป็นสมัยที่ 20 เท่ากับสถิติสูงสุดของ อาร์เซน่อล

และถ้า ปีศาจแดง เข้าไปคว้าแชมป์ได้ ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเลย

นัดแซงกลับมาชนะสเปอร์ส แมนฯ ยู เล่นสมกับเป็นทีมของ โจเซ่ มูรินโญ่

ไม่เน้นสวยงาม ไม่เป็นฮีโร่ ปล่อยให้คู่แข่งบุกไป ตัวเองรอชิงจังหวะสวน ทั้งเกมครองบอลแค่ 36% แต่เน้นคุณภาพของการเข้าทำ สุดท้ายก็เอาชนะได้ 2-1

Advertisement

แมนฯ ยู เหมือนเกมเป็นรอง แต่กลับไม่เป็นรอง เหมือน น่าจะแพ้ แต่ก็ ไม่แพ้

นี่คือเอกลักษณ์ของฟุตบอลสไตล์มูรินโญ่ 90 นาทีไม่ต้องไปสนใจรายละเอียด ขอแค่ชนะตอนจบก็โอเค

อาจจะฟังเหมือน ตีหัวเข้าบ้าน แต่ทีมที่ทำได้แบบนี้ ย่อมไม่ธรรม และผ่านการวางแผนมาอย่างรอบคอบ

พูดง่ายๆ บอลแมนฯ ยู ดูรายละเอียดในเกมแล้ว ไม่มีความเท่ห์ แต่เป็นทีมที่เล่นละเอียดอยู่ลึกๆ

นัดชนะสเปอร์ส แดนกลางปีศาจแดงอาจไม่ได้เพรสซิ่งอะไรมากมาย แต่หลังดันขึ้นมาบีบกดดันแนวรุกคู่แข่ง จนไม่มีพื้นที่ให้เล่น

แฮร์รี่ เคน ขยับไม่ออก คริสเตียน อีริกเซ่น จ่ายบอลไม่ถนัด ถ้าไม่เกิน ก็ ล้ำหน้า

กองหลังแมนฯ ยู เล่นดีได้ใจ ขณะที่ตัวรุกก็ใช้จังหวะสวนกลับอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะ อเล็กซิส ซานเชซ ที่ยิง 1 จ่าย 1 ฟอร์มน่าประทับใจสุดตั้งแต่ย้ายทีมมา

แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะสเปอร์สด้วย กึ๋น และ ความเด็ดขาด ชนะแบบเดียวกับวันที่เฉือนลิเวอร์พูลในลีก รวมทั้งครึ่งหลังที่แซงกลับมาชนะแมนฯ ซิตี้

โจเซ่ มูรินโญ่ เชื่อมือได้เสมอในเกมใหญ่ ถึงปีนี้จะโดนซิตี้ขโมยซีน แต่อย่างน้อยก็น่าจะมีถ้วยรางวัลติดมือเอาไว้ปลอบใจแฟนๆ

และนั่นก็คงพอค้ำให้มูรินโญ่ ได้คุมทีมต่ออย่างไม่ต้องสงสัย

แต่บอลแนวจ่ามู ดีพอจะลุ้นแชมป์ลีกแย่งกับเรือใบ หรือหงส์แดงในปีหน้าไหม อันนี้คงต้องมาว่ากันอีกที

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image