‘พระเทพฯ’ ทรงเปิดอาคารเก็บผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและวิจัยพืช โรงงานหลวง จ.เชียงใหม่

เมื่อเวลา 12.44 น. วันที่ 26 เมษายน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีเปิดโรงเก็บผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และโรงปฏิบัติการวิจัยทางพืช ซึ่งมี พล.ร.อ.พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี, นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด พร้อมคณะผู้บริหารบริษัทดอยคำ ตลอดจนพนักงานโรงงานหลวง และประชาชน เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 1 (ฝาง) จังหวัดเชียงใหม่

การนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรวีดิทัศน์เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโรงเก็บผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและโรงปฏิบัติการวิจัยทางพืช รวมทั้งผลการดำเนินงานของโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่1 (ฝาง) และพิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ 1 (ฝาง) จากนั้นพระราชทานใบรับรองแหล่งผลิตพืช ตามระบบเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) แก่ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกสตรอว์เบอร์รีของกลุ่มเกษตรกรทำสวนโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำแม่งอน อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ จาก 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านป่าคา บ้านปางควาย และบ้านหนองเต่า ก่อนพระราชทานอนุสิทธิบัตรกรรมวิธีกระบวนการผลิตมะเขือเทศผงแก่ นายทวีศักดิ์ เลาหวิโรจน์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สายการผลิต บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ซึ่งเป็นผลงานศึกษาวิจัยของคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ที่ได้ทูลเกล้าฯถวาย

Advertisement

ต่อมา เสด็จฯไปยังแท่น ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย “โรงเก็บผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และโรงปฏิบัติการวิจัยทางพืช” เสด็จฯ ทอดพระเนตรภายในอาคารทั้งสองแห่ง ด้วยฉลองพระองค์ชุดกาวน์ดอยคำ ทรงปลูกต้นกัลปพฤกษ์ ก่อนเสด็จฯ กลับ

สำหรับโรงเก็บผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ณ โรงงานหลวงฯ ที่ 1 (ฝาง) จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ใช้สอยรวม 14,053 ตารางเมตร ถูกออกแบบให้ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ อาทิ พื้นที่เก็บผลิตภัณฑ์ สถานที่ขนถ่ายสินค้า ห้องเย็น โรงเก็บบ๊วยดอง ห้องพักเจ้าหน้าที่ สำนักงาน โรงอาหาร และโรงรับรอง เพื่อรองรับการขยับขยายองค์กรในอนาคต และเป็นสถานที่รับรองสำหรับประชาชนที่สนใจในการเรียนรู้ศาสตร์แห่งพระราชากับการวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืช ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 211 ล้านบาท

Advertisement

ขณะที่โรงปฏิบัติการวิจัยทางพืช จะเป็นแหล่งวิจัย ปรับปรุง และพัฒนาทั้งพันธุ์พืชท้องถิ่น และสายพันธุ์จากต่างประเทศ ด้วยเทคโนโลยีทางด้านการเกษตรสมัยใหม่ให้ได้สายพันธุ์ที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศในแต่ละพื้นที่ มีภูมิต้านทานโรคและแมลง เน้นผลิตต้นพันธุ์พืชที่ปลอดโรค สามารถลดต้นทุนทางด้านการเพาะปลูกแก่เกษตรกร ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 20 ล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image