ฝนตก 5 ชั่วโมงน้ำท่วมขังโบราณสถานวัดโขลงสุวรรณคีรี หมายเลข 18 ผู้ว่าสั่งเร่งระบาย
ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีประสานสำนักงาน ปภ. สำนักงานทรัพยากรน้ำ และ อบต.คูบัว เร่งนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งที่บริเวณโบราณสถานวัดโขลงสุวรรณคีรี โบราณสถานหมายเลข 18 หลังฝนตกหนักตลอดทั้งวันเกรงจะทรุดพังเสียหาย นอกจากนี้ยังมีเกษตรกรได้นำเครื่องสูบน้ำออกจากแปลงผักหลังฝนตกจนท่วมขังสูงหวั่นเน่าตาย
เมื่อวันที่ 28 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูใบฎีกาสุพจน์ ธีรวโส เจ้าอาวาสวัดโขลงสุวรรณคีรี หมู่ 6 ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้โพสต์รูปภาพเกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมขังบริเวณโบราณสถานภายในวัดเกรงจะเกิดการทรุดพังเสียหาย ผ่านทางโลกโซเชียว่า “ ใครก็ได้ช่วยหน่อย ทางวัดมีไดโว่ตัวเดียว ระบายน้ำไม่ทัน ใครมีเครื่องสอบน้ำหางยาวช่วยด้วย ” ต่อมานายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้มอบหมายให้รักษาการหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยจังหวัดประสานสำนักงานทรัพยากรน้ำ เข้าสำรวจพื้นที่และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณเมืองโบราณ ซึ่งขณะนี้ทาง อบต.คูบัวได้นำเครื่องสูบน้ำ จำนวน 3 เครื่องไปติดตั้งตามจุดที่น้ำท่วมขังแล้ว นอกจากนี้ทางสำนักงานทรัพยากรน้ำ จะได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาสูบเพื่อระบายน้ำลงลำห้วยสาธารณะอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับโบราณสถานหมายเลข 18 วัดโขลงสุวรรณคีรี ตั้งอยู่กลางเมืองคูบัว และมีขนาดสูงใหญ่ที่สุดในโบราณสถานทั้งหมดของเมืองโบราณสถานคูบัว สร้างด้วยอิฐขนาดใหญ่ เนื้ออิฐผสมด้วยแกลบข้าวเหนียวเมล็ดใหญ่ แล้วใช้ดินเหนียวเนื้อละเอียดผสมยางไม้หรือน้ำอ้อยเป็นดินสอหรือตัวประสาน นับเป็นอาคารพุทธสถานเนื่องในลัทธิมหายานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง โดยจากเค้าโครงหลักฐานที่ปรากฏร่องรอยให้เห็น ทำให้สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นฐานของวิหาร เนื่องจากมาแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีบันไดขึ้นไปสู่ลานประทักษิณชั้นบนทาง ด้านทิศตะวันออกเปรียบเทียบได้กับสถูปที่เมืองนาลันทา ประเทศอินเดีย ที่มีเครื่องบนเป็นเจดีย์ทรงกลมขนาดใหญ่อยู่ที่กึ่งกลาง โดยมีเจดีย์ทรงกลมขนาดเล็กเป็นบริวารที่มุมทั้งสี่เช่นเดียวกัน ซึ่งมีลักษณะเป็นศิลปะทวารวดี ประมาณพุทธศตวรรษที่ 14 ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2502 นอกจากนี้ทางวัดโขลงสุวรรณคีรียังได้จัดงานกาดวิถีชุมชนคูบัว ขึ้นในช่วงระหว่างวันเสาร์และวันอาทิตย์ ที่ผ่านมาจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้ามาเที่ยวชมโบราณสถานและเลือกซื้อสินค้า พืชผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์ในชุมชนกันอย่างคึกคัก แต่วันนี้ค่อนข้างซบเซาเนื่องจากเกิดฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเย็น ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมเที่ยวน้อยมาก
ส่วนที่แปลงผักของเกษตรกรหมู่ที่ 4 ต.อ่างทอง อ.เมือง หลังจากเกิดฝนตกลงมาตั้งแต่ช่วงเช้ารวมกว่า 5 ชั่วโมง จนถึงช่วงเย็น ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังแปลงผักที่มีเกษตรกรปลูกผักหลายชนิดซึ่งเป็นผักล้มลุก ได้แก่ มะเขือยาว มะระ พริกหยวก ข้าวโพด ถูกน้ำท่วมขังสูง ชาวบ้านได้นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพื่อเร่งสูบน้ำออก เนื่องจากหากปล่อยให้แช่น้ำนานหลายชั่วโมง เกรงจะเกิดปัญหารากเน่าตายได้
