พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมเก็บตัวฝึกซ้อม และอุ่นเครื่องของทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย โดยมี มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชฟุตบอลไทย พร้อมด้วยทีมสต๊าฟโค้ช, “โค้ชเฮง” นายวิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค ร่วมด้วย ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ หัวหมาก เมื่อวันที่ 30 เมษายน
“ช้างศึก” ทีมชาติไทย จะมีโปรแกรมอุ่นเครื่องพบ จีน วันที่ 2 มิถุนายน โดยจะมีการเรียกเก็บตัวฝึกซ้อมช่วงวันที่ 28 พฤษภาคม-วันที่ 5 มิถุนายน 2561 เพื่อลงเตะอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อม 2 รายการใหญ่คือ ชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” ช่วงวันที่ 8 พฤศจิกายน-วันที่ 15 ธันวาคม 2561 ต่อด้วยชิงแชมป์เอเชีย “เอเชี่ยน คัพ 2019” ช่วงวันที่ 5 มกราคม-วันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีหน้า
หลังประชุม มิโลวาน ราเยวัช เปิดเผยว่า เป็นการพูดคุยเตรียมความพร้อมในเกมที่ทีมชาติไทยจะอุ่นเครื่องกับ จีน โดยได้คุยกับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในการเรียกนักเตะเข้าแคมป์เก็บตัวครั้งนี้ ซึ่งทีมชาติจีนตอนนี้ถือเป็นทีมอันดับ 6 ของทวีปเอเชียตามฟีฟ่าแร้งกิ้ง เพราะฉะนั้น จึงต้องการใช้เกมอุ่นเครื่องแมตช์นี้ทดสอบทีมว่าเราอยู่ระดับไหนของเอเชีย และมีความพร้อมทำศึกเอเชี่ยน คัพ 2019 ปีหน้าแค่ไหน
ราเยวัช กล่าวต่อว่า แม้เกมกับจีนจะเป็นเพียงเกมอุ่นเครื่อง แต่ยืนยันว่าจะเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ จะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด สิ่งสำคัญถือเป็นเรื่องดีสำหรับการเก็บตัวครั้งนี้คือ จะมีระยะเวลาเตรียมตัวก่อนมากถึง 5 วัน แตกต่างจากครั้งก่อนในศึกชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 46 ไม่ค่อยมีระยะเวลาเตรียมตัวมากเท่าไรนัก
“สำหรับการเข้าแคมป์เก็บตัวครั้งนี้ในช่วง 5 วันก่อนเกมเราจะมีโอกาสฝึกซ้อมลงแทคติคที่เข้มข้น และได้มีความใกล้ชิดกับผู้เล่นมากขึ้น ทำให้จะสามารถพัฒนารูปแบบการเล่นมิติต่างๆ ของทีมให้ดีขึ้น โดยที่ผ่านมาได้พอจะมองออกว่า ทีมขาดจุดไหน แต่ยังไม่มีเวลาฝึกซ้อม เพราะฉะนั้น แคมป์นี้เราจะมีเวลาฝึกซ้อมมากขึ้น ซึ่งครั้งนี้จะถือเป็นการเตรียมทีมสำหรับอนาคตที่จะมี 2 รายการสำคัญ ทั้ง เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2019 และเอเชี่ยน คัพ 2019” กุนซือชาวเซอร์เบียกล่าว
ราเยวัช กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ 2 รายการดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญ เราจะต้องทำผลงานให้ได้ดีที่สุด ดังนั้นแมตช์กับจีนจะต้องตั้งใจ และเต็มที่มาก ส่วนรายชื่อนักเตะชุดอุ่นเครื่องกับจีนนั้น จะส่งชื่อให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ภายใน 2 วันนี้ แต่จะส่งเป็นลิสต์รายชื่อจำนวน 40-50 คน เนื่องจากเป็นการให้นักเตะทุกคนได้รู้ว่าใครมีโอกาสที่จะติดทีมชาติบ้าง และจะมอนิเตอร์ฟอร์มการเล่นทุกคน รวมถึงอาการบาดเจ็บ เพื่อเลือกนักเตะคนที่ดีที่สุด และพร้อมที่สุดเข้าแคมป์เตรียมพร้อมกับจีน
เฮดโค้ชทีมชาติไทยกล่าวว่า ไม่อยากให้มองแค่เกมอุ่นเครื่องกับจีน แต่อยากให้มองถึงอนาคต 2 รายการสำคัญ เพราะหลังจากนี้จะไม่ค่อยมีเวลาเข้าแคมป์เก็บตัวมากนัก จึงอยากใช้ช่วงเวลานี้รวมนักเตะให้ได้มากที่สุด และพยายามใส่แทคติคให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังต้องรอผลการจับสลากแบ่งสายทั้ง 2 รายการ หลังจากนั้นจะรู้ว่าจะพบกับทีมไหนบ้าง และจะทำให้สามารถมองไปได้ว่าในการฝึกซ้อมจะต้องเน้นเรื่องอะไรเป็นพิเศษเพิ่มเติม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความท้าทายทั้ง 2 รายการนี้
ขณะที่ โค้ชเฮง กล่าวว่า ทีมไทยจะได้ตัว “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ จาก โอเอช ลูเวิน ในลีกเบลเยียม แน่นอน แต่อีก 3 นักเตะในเจลีก ญี่ปุ่น ทั้ง “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา, “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน และ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยังบอกไม่ได้ เพราะไม่ใช่ช่วงฟีฟ่าเดย์ และต้นสังกัดทั้ง 3 คนมีคิวเตะฟุตบอลถ้วย ส่วนเกมอุ่นเครื่องกับ อินเดีย ได้ปฏิเสธเขาไปแล้ว
