เปิดคัมภีร์ไต้หวัน ’10 อันดับอาหารเพื่อสุขภาพ’ ที่ต้องกินให้ได้

เพราะอาหารดีไม่เพียงแต่ให้ความอร่อยลิ้นอย่างเดียว แต่ยังช่วยให้สุขภาพดี และสร้างชีวิตให้ยืนยาวได้

ในหนังสือ “กินเปลี่ยนชีวิต ด้วยอาหาร 100 ชนิดจากธรรมชาติ” จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ ให้รายละเอียดของอาหารเพื่อสุขภาพตำรับ “ไต้หวัน” ไว้อย่างน่าสนใจ โดยเป็นการรวบรวมความรู้จากผู้เชี่ยวชาญทั้งนักโภชนาการ แพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์แผนจีนไต้หวัน จัดเรียงเป็นอันดับสุดยอดอาหารไว้อย่างเข้าใจง่าย

ลองมาดูกันว่า อาหารเพื่อสุขภาพยอดนิยม 10 อันดับที่ต้องกินให้ได้ มีอะไรกันบ้าง

อันดับ 10 ปลาทูน่า มีโปรตีนที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ไขมันต่ำ มีกรดไขมัน EPA และ DHA ที่ช่วยในการทำงานของเซลล์สมอง หากกินคู่กับผักผลไม้สีเขียวและสีเหลืองที่มีแคโรทีนจะช่วยบำรุงสมองและป้องกันมะเร็ง ไม่ควรกินปลาทูน่าคู่กับธัญพืชหรืออาหารจำพวกถั่วที่มีกรดไฟติก เพราะสารทั้ง 2 ชนิดนี้จะจับตัวกันกลายเป็นสารที่ละลายยาก ขัดขวางการดูดซึมโปรตีนของร่างกาย

Advertisement
ปลาทูน่า

อันดับ 9 ไข่ไก่ มีสารอาหารที่ร่างกายต้องการเกือบทุกชนิด โปรตีนในไข่ให้กรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการ นอกจากนี้ ยังมีดีเอ็นเอเลซิทิน วิตามินเอและบี การกินไข่ไก่ที่มีวิตามินอีคู่กับผักผลไม้สดที่มีวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างการทำงานของแอนติออกซิแดนต์ ป้องกันโรคมะเร็ง ชะลอความแก่ได้ ไม่ควรกินไข่ไก่คู่กับชาหรือผลไม้บางชนิดที่มีกรดแทนนิก เพราะจะทำให้การบีบตัวของลำไส้ช้าลงจนเกิดอาการท้องผูก

อันดับ 8 ถั่วเหลือง (รวมถึงเต้าหู้และน้ำเต้าหู้) อาหารที่ทำจากถั่วเหลืองอุดมไปด้วยกรดอะมิโน แคลเซียมเลซิทิน และสารฟลาโวนอยด์ที่ร่างกายต้องการ ช่วยให้เซลล์สมองเจริญเติบโต ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันมะเร็ง ช่วยชะลอความแก่ ไม่ควรกินถั่วเหลืองที่มีกรดไฟติกคู่กับตับหรือเนื้อสัตว์ที่มีธาตุเหล็ก เพราะกรดไฟติกจะขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกาย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง

ปวยเล้ง


อันดับ 7 ปวยเล้ง อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร มีวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้สมองของเด็กเล็กเจริญเติบโต บำรุงรักษาสายตาการกินปวยเล้งที่มีวิตามินเอคู่กับธัญพืชเมล็ดของผลไม้เปลือกแข็งและผักสีเขียวที่มีวิตามินอี จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายดูดซึมวิตามินเอได้ดีขึ้น หากกินปวยเล้งที่มีกรดออกซาลิกคู่กับปลาที่มีก้างหรือปลาแห้งที่มีแคลเซียม สารทั้ง 2 ชนิดนี้จะจับตัวกันกลายเป็นสารแคลเซียมออกซาเลตส่งผลต่อการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายซึ่งอาจทำให้เป็นโรคนิ่วได้

Advertisement

อันดับ 6 ฮ่วยซัว มีสารโดพามีน ซาโปนิน มิวโคโปรตีน และเยอร์มาเนียม ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายหรือเพิ่มจำนวน ปกป้องผนังกระเพาะอาหาร การกินฮ่วยซัวที่มีเส้นใยอาหารคู่กับไข่และนมที่มีกรดทอรีน หรือปลา กุ้ง และหอย ช่วยบำรุงตับและหัวใจ ลดคอเลสเตอรอลได้ แต่หากกินฮ่วยซัวที่อุดมไปด้วยแป้งคู่กับชาเข้ม หรือผลไม้ที่มีสารแทนนิน สารทั้ง 2 ชนิดจะรวมตัวกันกลายเป็นลิ่มที่ย่อยยาก ผู้มีแก๊สในกระเพาะอาหารไม่ควรกิน เพราะจะทำให้กระเพาะและลำไส้ปั่นป่วน

อันดับ 5 แอปเปิล สุดยอดผลไม้เพื่อสุขภาพ เพราะเส้นใยอาหารและโพแทสเซียมในแอปเปิลช่วยให้กระเพาะและลำไส้บีบตัว กระตุ้นให้ของเสียถูกขับออกจากร่างกาย ควบคุมคอเลสเตอรอลชนิดเลว บำรุงเส้นเลือด ลดอัตราการเกิดโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ กินคู่กับผักสีเขียว เมล็ดของผลไม้เปลือกแข็ง และธัญพืชที่มีวิตามินอีธาตุซีลีเนียมในแอปเปิลจะช่วยเสริมสร้างการทำงานของแอนติออกซิแดนต์และระบบภูมิคุ้มกัน และในแอปเปิลมีกรดแทนนิก จึงไม่ควรกินคู่กับปลาที่มีก้างหรือปลาแห้งที่มีแคลเซียม เพราะจะกลายเป็นสารชนิดหนึ่งที่ย่อยยาก ทำให้กระเพาะและลำไส้ปั่นป่วน

สาหร่ายทะเล

อันดับ 4 สาหร่ายทะเล อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ แคลอรีต่ำ มีประโยชน์ในการขจัดสารพิษกระตุ้นเมแทบอลิซึม ลดความเครียดและวิตกกังวล ในสาหร่ายทะเลมีแคลเซียมสูง เมื่อกินคู่กับผักใบเขียว อาหารจำพวกไข่และนมที่มีวิตามินเคจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินเคได้ดีขึ้น บำรุงกระดูก กระตุ้นการแข็งตัวของเลือด

อันดับ 3 มันเทศ มีเส้นใยที่มีคุณสมบัติอ่อนนุ่มย่อยง่าย ทำให้ขับถ่ายคล่อง มีส่วนช่วยในการขจัดสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย รวมถึงป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็งมันเทศจึงได้ชื่อว่าเป็น “พืชแห่งการต้านมะเร็ง” หากกินคู่กับผลไม้เปลือกแข็งและผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันจะช่วยให้วิตามินเอในมันเทศดูดซึมได้ดีขึ้น

อันดับ 2 หอมหัวใหญ่ หรือ “ราชินีแห่งผัก” มีคุณสมบัติควบคุมสารก่อมะเร็ง อุดมไปด้วยสารเควอซิติน และสารประกอบซัลเฟอร์หลายชนิด หากกินคู่กับเนื้อสัตว์หรือเครื่องในสัตว์ที่มีวิตามินบี 1 ช่วยเสริมประโยชน์ของวิตามินบี 1 คลายความเมื่อยล้า กระตุ้นการเจริญเติบโต ไม่ควรกินหอมหัวใหญ่คู่กับผลไม้ที่ไม่ปอกเปลือก เพราะเมื่อผ่านการย่อยจะทำให้เกิดสารที่ทำให้ต่อมไทรอยด์บวม

และ อันดับ 1 ข้าวกล้อง ข้าวมหัศจรรย์เพื่อสุขภาพ แหล่งพลังงานชั้นยอด อุดมไปด้วยวิตามินกลุ่มบีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและเส้นใยอาหารที่ช่วยขจัดสารพิษ ทั้งยังมีแร่ธาตุมากมายรวมทั้งเอนไซม์ที่ช่วยบำรุงสุขภาพกายใจ เรียกได้ว่ามีสารอาหารที่ร่างกายต้องการหลายชนิด หากนำมากินคู่กับต้นหอม กระเทียม หอมหัวใหญ่ กุยช่ายที่มีสารอัลลิซิน จะช่วยเสริมประโยชน์ของวิตามินบี 1 ช่วยบำรุงผิวพรรณ ไม่ควรกินข้าวกล้องคู่กับอาหารทะเลที่มีเอนไซม์ย่อยวิตามินบี 1 เนื่อง จากวิตามินบี 1 ในข้าวกล้องจะถูกทำลาย

เพราะใน “อาหาร” มี “สารอาหาร” หลายประเภทที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ละประเภทยังให้ประโยชน์ต่างกัน หากรับเข้าสู่ร่างกายมากหรือน้อยเกินไปอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคได้ ฉะนั้น หัวใจสำคัญของการกินคือ “สมดุลของสารอาหาร”

กินให้ตรงเวลาในปริมาณที่เหมาะสม รักษาสมดุล อีกหนึ่งเคล็ดลับช่วยให้ชีวิตยืนยาว

ข้าวกล้อง
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image