ศาลปกครองสูงสุดยกฟ้องคดี’ทักษิณ’ฟ้อง’กงสุล’เลิกพาสปอร์ต

เมื่อเวลา 10.00 วันที่ 1 พฤษภาคม ที่ศาลปกครอง ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ 2115/2558 คดีหมายเลขแดงที่ 1930/2559 ที่นายทักษิณ ชินวัตร ฟ้องอธิบดีกรมการกงสุล และพวกรวม 2 คน กรณีกรมการกงสุลยกเลิกหนังสือเดินทางของนายทักษิณ 2 ฉบับ โดยก่อนหน้านี้ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษายกฟ้องในคดีดังกล่าวแล้ว แต่นายทักษิณได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ว่าระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ไม่ใช่กฎหมายเฉพาะให้อำนาจรัฐจำกัดสิทธิเสรีภาพได้ การที่ระเบียบดังกล่าวให้อำนาจอธิบดีกรมการกงสุลไม่ออกหรือยกเลิกหนังสือเดินทางของบุคคลสัญชาติไทยจึงขัดต่อรัฐธรรมนูญ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและกติการะหว่างประเทศ และการยกเลิกหนังสือเดินทางโดยอาศัยข้อเท็จจริงจากความเห็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทั้งที่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับจึงถือว่าเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็น และการที่ สตช.กล่าวหาว่านายทักษิณกระทำผิดกฎหมาย ทั้งที่ยังไม่มีการสอบสวนหรือแจ้งข้อกล่าวหา ก็เป็นการกระทำที่รวบรัดขั้นตอนทางกฎหมาย นอกจากนั้นยังเห็นว่าการที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาที่เป็นการวินิจฉัยว่านายทักษิณกระทำผิดกฎหมายอาญานั้นเห็นว่าศาลปกครองไม่มีอำนาจวินิจฉัยดังกล่าว

โดยศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางของกรมการกงสุลชอบด้วยกฎหมาย เพราะการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณกับสื่อมวลชนของประเทศเกาหลี ซึ่งมีเนื้อหาพาดพิงองคมนตรี ถ้อยคำดังกล่าวจึงเป็นปรปักษ์กับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นการกระทบต่อชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง ส่วนกรณีที่นายทักษิณอุทธรณ์ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติและไม่เป็นธรรมนั้น ศาลเห็นว่าการที่จะอ้างว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่เป็นธรรมนั้น หากนายทักษิณเป็นผู้กระทำความผิดเอง ก็ไม่สามารถอ้างว่าหน่วยงานผู้ใช้อำนาจเลือกปฎิบัติได้ ดังนั้นจึงถือว่าคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางนั้นชอบด้วยกฎหมาย ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลางที่มีคำพิพากษายกฟ้อง

ด้านนายวัฒนา เตียงกูล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายทักษิณ กล่าวภายหลังการอ่านคำพิพากษาว่า วันนี้ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าข้ออุทธรณ์ในคดีรับฟังไม่ขึ้น ดังนั้นเรื่องนี้คงต้องยุติ ทำอะไรไม่ได้ เพราะคดีถึงที่สุดแล้ว หลังจากนี้จะประสานไปยังนายทักษิณ เพื่อแจ้งคำพิพากษาของศาลให้รับทราบต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image