“บิ๊กจิน” เปิดประชุมสภาบังคับคดีนานาชาติ ครั้งแรกในทวีปเอเชีย วางแนวพัฒนางานบังคับคดีให้ทันสมัย

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดและกล่าวเปิดการประชุมคองเกรสนานาชาติของสภาเจ้าพนักงานบังคับคดีระหว่างประเทศ (UIHJ)ครั้งที่ 23 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเป็นครั้งแรกและเป็นครั้งแรกในทวีปเอเชีย มีนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี ได้กล่าวรายงาน นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และ ประธานสภาเจ้าพนักงานบังคับคดีระหว่างประเทศ ร่วมกล่าวในพิธีเปิดการประชุมด้วย ทั้งนี้มีสมาชิกสภาเจ้าพนักงานบังคับคดีระหว่างประเทศกว่า 50 ประเทศทั่วโลก สมาชิกอาเซียน ผู้บริหารจากองค์กรระหว่างประเทศ นักวิชาการ ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 400 คน

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ถือเป็นเวทีการประชุมนานาชาติที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ทำหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีของประเทศต่างๆทั่วโลก  ทั้งที่เป็นเอกชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ  ที่ได้มาประชุมแลกเปลี่ยนความเห็นและประสบการณ์ระหว่างกันในประเด็นที่สำคัญและประเด็นที่มีความท้าทายต่าง ๆ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับโลกาภิวัตน์และดิจิทัล เพื่อร่วมกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ดีรองรับพัฒนาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง  เพื่อให้การบังคับคดีมีความเป็นธรรม  มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและพัฒนาวิชาชีพเจ้าพนักงานบังคับคดีและเสริมสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้านการบังคับคดีจากประเทศต่างๆทั่วโลกด้วย

 

Advertisement

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยรัฐบาลได้กำหนดนโยบายปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งกระทรวงยุติธรรมโดยกรมบังคับคดีได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอแก้ไขปรับปรุงประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งที่มีผลใช้บังคับไปแล้วเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2560 ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปครั้งสำคัญโดยหลักการปรับปรุงบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว  ลดขั้นตอนการบังคับคดีปรับปรุงกระบวนการบังคับคดีให้สะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายรองรับประเภทของทรัพย์สินประเภทใหม่ๆทั้งที่มีรูปร่างและไม่มีรูปร่าง ลดโอกาสในการใช้ช่องทางกฎหมายเพื่อการประวิงคดีและกำหนดให้มีมาตรการคุ้มครองคู่ความและบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญระยะเวลาในการบังคับคดีและค่าใช้จ่ายในการบังคับคดีลดลงอย่างชัดเจน

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวอีกว่า ผลจากการปรับปรุงกฎหมายครั้งนี้  เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารโลก จัดอันดับให้ประเทศไทยดีขึ้นในด้านขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้านความยากง่ายในการประกอบธุรกิจในปี2561ให้ไทยได้อันดับโลกในเรื่องนี้เป็นลำดับที่ 34 ดีขึ้นกว่าครั้งก่อนถึง 17ลำดับ ซึ่งธนาคารโลกระบุว่าระยะเวลาการบังคับคดีที่ลดลงเพราะมีการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์กลับมาใช้และกระบวนการบังคับคดีมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น.

Advertisement

ด้านน.ส.รื่นวดี กล่าวว่า การประชุมคองเกรสนานาชาติของสภาเจ้าพนักงานบังคับคดีระหว่างประเทศ ครั้งที่ 23 นี้ มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เพื่อประชุมหารือและแลกเปลี่ยนความเห็นต่อประเด็นที่มีความท้าทายและเป็นประเด็นที่มีความเป็นทันสมัยใน 3 หัวข้อที่สำคัญ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี หัวข้อที่ 1 “หลักประกันความยุติธรรมด้านความปลอดภัยของข้อมูล” หัวข้อที่ 2 “หลักประกันความยุติธรรมด้านความรับผิดชอบของผู้ปฏิบัติงานกับหลักธรรมาภิบาล” หัวข้อที่ 3 “หลักประกันความยุติธรรมด้านเครื่องมือระบบดิจิตอลเพื่อความยุติธรรมที่ยั่งยืน” การจัดประชุมคองเกรสนานาชาติกับสภาเจ้าพนักงานบังคับคดีระหว่างประเทศ ครั้งที่ 23 นี้ ถือเป็นการเผยแพร่พัฒนาการด้านการบังคับคดีแพ่งของไทยที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานสากล เสริมสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าพนักงานบังคับคดีจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก นักวิชาการ และผู้บริหารจากองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการส่งเสริมความร่วมมือในระดับนานาชาติให้มีความก้าวหน้าต่อไป รวมทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image