ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโลกก็คือ โลกเราโคจรอยู่โดยรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลานาน 1 ปี แต่ในเวลาเดียวกัน โลกก็หมุนรอบตัวเองอยู่ด้วยโดยหมุนรอบแกนสมมุติจากขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ ใช้เวลา 24 ชั่วโมง ที่ความเร็วประมาณ 1,670กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อวัดที่เส้นศูนย์สูตร
การหมุนของโลกเป็นการหมุน “ทวน” เข็มนาฬิกา (เมื่อมองลงมาจากด้านบนขั้่วโลกเหนือ) เช่นเดียวกับดาวเคราะห์อื่นๆ แทบทุกดวงในระบบสุริยะ ยกเว้นเพียง ดาวศุกร์และดาวมฤตยู หรือยูเรนัส ซึ่งหมุนรอบตัวเอง “ตาม” เข็มนาฬิกา
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการหมุนของโลก ส่งผลต่อสภาพภูมิอากาศของโลกอย่างมาก เนื่องจากแรงผลักและแรงดึงที่เกิดจากการหมุนส่งผลต่อรูปแบบการเคลื่อนไหวของกระแสน้ำในมหาสมุทร เช่นเดียวกับทิศทางการเคลื่อนที่ของกระแสลม ซึ่งล้วนส่งผลต่อปริมาณฝนและความชุ่มชื้นหรือแห้งแล้งในแต่ละพื้นที่
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องการรู้ให้ชัดเจนว่า การหมุนของโลกส่งอิทธิพลต่อโลกมากน้อยแค่ไหน ทีมนักวิจัยจากสถาบันมักซ์ พลังก์ ด้านอุตุนิยมวิทยา นำโดย ฟลอเรียน ซีเมน สร้างแบบจำลองของโลกในคอมพิวเตอร์ขึ้นมา แต่กำหนดให้หมุนย้อนกลับทิศทาง คือหมุนตามเข็มนาฬิกา โดยยังคงสัดส่วนของสภาพภูมิประเทศทั้งหมดไว้ เช่นขนาดของทวีปและมหาสมุทร แต่กำหนดให้ส่วนที่สัมพันธ์กับการหมุนของโลกเป็นไปตามความเคลื่อนไหวใหม่ทั้งหมด ทั้งทิศทางลมและกระแสน้ำ ผลก็คือภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนไปทั้งหมดตามเงื่อนไขของเวลาหลายพันปีที่ป้อนลงไป
การหมุนรอบตัวเองกลับทิศทางของโลกจะทำให้พื้นที่ทวีปอเมริกาเหนือบางส่งวน ตั้งแต่ตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา เรื่อยไปจนถึงตอนใต้ของบราซิลและอาร์เจนตินา กับตอนเหนือของจีน กลายเป็นทะเลทราย เช่นเดียวกับพื้นที่ป่าอเมซอนที่จะกลายเป็นสันทรายแห้งแล้ง ในขณะที่พื้นที่ทะเลทรายแต่เดิมราวครึ่งหนึ่งจะมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ต้นหญ้าขึ้นเขียวชะอุ่มและแอฟริกาตอนกลางจะกลายเป็นป่าชุมชื้นไปจนครอบคลุมพื้นที่ตะวันออกกลางทั้งหมด
ส่วนยุโรปตะวันตกจะหนาวจัดเป็นน้ำแข็งเกือบตลอดปี ในขณะที่รัสเซียจะอบอุ่นขึ้น ที่สำคัญคือ แบคทีเรียในกลุ่ม ไซยาโนแบคทีเรีย ซึ่งสร้างออกซิเจนผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสงจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากกระแสน้ำอุ่นในมหาสมุทรแอตแลนติกที่เป็นตัวกำหนดภูมิอากาศของโลกจะหายไป และจะไปเกิดกระแสน้ำในลักษณะเดียวกันขึ้นบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกแทน
ข้อสรุปที่น่าสนใจก็คือ โลกที่หมุนตามเข็มนาฬิกา จะมีความเขียวชะอุ่มมากกว่าและมีอุณหภูมิลดลงกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้มากเลยทีเดียว
