‘อลงกรณ์’เตือนคสช.เล่นการเมืองแบบเก่าระวังจบไม่สวย ยันอดีตส.ส.เพชรบุรี ยังไม่โดนดูด

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) กล่าวว่า ภารกิจของรัฐบาลในการประชุมครม.สัญจร หรือเยี่ยมประชาชนนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ ที่ทุกรัฐได้ดำเนินการมาโดยตลอด เช่นเดียวกับการไปพบปะนักการเมือง หรือดึงนักการเมืองต่างพรรคมาอยู่ด้วย ล้วนเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย สิ่งสำคัญในวันนี้คือพรรคการเมืองและนักการเมืองควรเร่งสร้าง ฟื้นฟูความศรัทธา ปฏิรูปตัวเองให้เป็นความหวังและทางเลือกที่ดี พร้อมกันนี้ทุกพรรคต้องดูแล ส.ส.ในสังกัดเพื่อให้ยืนหยัดอยู่กับพรรค เพราะการดูดหรือดึงตัวนักการเมืองนั้น ไม่ต่างจากทีมฟุตบอลที่ทุกทีมต้องการชัยชนะ ดังนั้น จึงต้องมีการดึงตัวนักเตะฝีเท้าดี ซึ่งไม่ต่างกับระบบการเมืองก่อนการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม หากต้องการสร้างการเมืองแบบใหม่ ก็ไม่ควรใช้แนวทางเดิม เช่น การรวบรวมนักการเมือง กลุ่มทุน เข้ามาในพรรคแล้วมีผลประโยชน์ต่อกัน แม้การดึงนักการเมืองเข้าไปอยู่ด้วยจะเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ควรมีการข่มขู่ คุกคาม ต่อรองผลประโยชน์

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า นับจากอดีตที่ผ่านมา ไม่มีพรรคการเมืองใดประสบความสำเร็จด้วยการรวบรวมคนโดยให้ผลประโยชน์ตอบแทน เพราะสุดท้ายแล้วจะจบที่มาทุจริต คอร์รัปชัน และรัฐประหาร ดังนั้น พรรคที่จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯเป็นหัวเลี้ยวหัวแรง ควรจะต้องตั้งลำให้ดี ว่าจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้งด้วยแนวคิดใหม่หรือจะใช้วิธีการเดิมๆ เพราะวิธีการเดิมๆไม่ใช่แนวทางปฏิรูปการเมือง ซึ่งจะเหมือนรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลผสมของพรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่เกิดการพัฒนาการการเมืองขึ้นเลย สุดท้ายก็จบที่รัฐประหาร ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

เมื่อถามว่ามองว่าแม้แต่พรรคของนายสมคิดเอง ถ้าเล่นการเมืองแบบเก่า ก็ไม่มีทางรอดใช่หรือไม่ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ทั้งพรรคใหม่และพรรคเก่า ถ้ายังไม่ก้าวพ้นระบบธุรกิจการเมืองแบบเดิม ในที่สุดจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ไม่สามารถพัฒนาระบอบประชาธิปไตยได้ ทั้งนี้ ในรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ และแผนปฏิรูปประเทศ ได้สร้างแนวทางการเมืองแบบใหม่ไว้แล้ว เช่น ระบบไพรมารีโหวต ที่พรรคการเมืองเป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ผู้สมัครรับเลือกตั้งล้วนมาจากฐานการสนับสนุนจากประชาชน ไม่ได้มาจากฐานนายทุนพรรค หรือผู้มีบารมี โดยทุกพรรคต้องหาช้างเผือกของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียงในจังหวัดต่างๆ

เมื่อถามว่าการดูดนักการเมืองพบในพื้นที่ จ.เพชรบุรี บ้างหรือไม่ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ยืนยันไม่ยอมรับระบบนี้อยู่แล้ว เมื่อครั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)เคยดึงนักการเมืองต่างพรรคเข้าไปอยู่ด้วย แต่เป็นการทำด้วยมารยาท โดยให้เจ้าตัวมีความประสงค์ย้ายสังกัดเองเมื่อเห็นว่าแนวทางและอุดมการณ์ตรงกัน แต่การจะสร้างการเมืองใหม่ไม่ควรใช้วิธีการเหล่านี้ เพราะจะทำให้ทุกอย่างผิดไปหมด เหมือนกับติดกระดุมเม็ดแรกผิด แล้วยังจะติดเม็ดต่อๆไป

Advertisement

“วันนี้ผมยังวางตัวเป็นกลาง และผมยังไม่เห็นชัดเจนว่ามีปรากฏการณ์ คสช.ดูดนักการเมืองจนผิดจากวัฒนธรรมการเมืองไทย แต่ผมเห็นว่า ถ้าจะเดินหน้าการเมือง ก็ไม่ควรเดินหลงทาง อย่าสร้างการเมืองโดยการรวบรวมกลุ่มทุน ผู้มีอิทธิพล รวมถึงนักการเมืองที่มีประวัติไม่โปร่งใส มิเช่นนั้นจะเกิดระบบอุปถัมภ์ในธุรกิจการเมือง แล้วรับใช้กลุ่มทุนทางการเมืองมากกว่ารับใช้ประชาชนและประเทศชาติ”นายอลงกรณ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image