เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม นางสดศรี สัตยธรรม อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีแกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรีที่ประเทศสิงคโปร์ว่า คิดว่ายังไม่พบเป็นการกระทำที่ขัดต่อพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง อีกอย่างแกนนำพรรคเพื่อไทยก็เดินทางไปพบนายเก่าเป็นประจำอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการเดินทางไปพบผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือนั้นเป็นวิสัยของคนไทย แม้พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง จะมีบัญญัติห้ามเกี่ยวกับการมีผู้อยู่เบื้องหลังพรรคหรือใช้พรรคการเมืองเป็นนิมินี โดยมีโทษถึงยุบพรรคและตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่คิดว่ากรณีนี้ไม่เข้าข่าย
“การจะรู้ว่าพรรคการเมืองเป็นนอมินีของใครหรือไม่จะต้องพิสูจน์ ว่ามีการให้เงิน หรือครอบงำพรรคอย่างไร หลักฐานต่างๆจะต้องชัดเจน โดย กกต.จะพิสูจน์ได้ก็ต่อเมื่อมีคนร้องเรียน และการร้องเรียนนั้นจะต้องมีพยานหลักฐาน แต่วันนี้ใครๆก็อ้างกฎหมายได้ เหมือนกับรัฐบาลจะไป จ.บุรีรัมย์ เราจะมองในแง่ร้ายก็ได้ ว่าเขากำลังต่อท่อน้ำเลี้ยง หรือกำลังดูดนักการเมือง พูดกันได้ทั้งนั้น แต่ในทางกฎหมาย ทุกอย่างต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ เพราะจะกล่าวหากันลอยๆไม่ได้ และตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งตอนไหน จึงบอกไม่ได้ว่าการเดินทางไปของแกนนำพรรคเพื่อไทยนั้น ผิดกฎหมาย”นางสดศรี กล่าว
