“นิพิฎฐ์” ลั่น ไม่รับรธน. หลังเจอคำถามพ่วงเป็นระเบิดเวลา ฟันธง ให้อำนาจวุฒิสภาโหวตนายกฯ ส่อรุนแรง ชี้ ทำรบ.อยู่ได้แค่ 4-5 เดือน เปรียบส.ว.เหมือนหมอตั้งรัฐบาลได้แต่รักษาชีวิตไม่ได้ จี้ ปชป.ประกาศท่าทีให้ชัดจะรับ-ไม่รับ
เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงมติสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เกี่ยวกับคำถามพ่วงประชามติ ให้อำนาจที่ประชุมรัฐสภาเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ว่า นี่เป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่มีอานุภาพรุนแรง ซึ่งตนไม่เห็นด้วยที่ให้อำนาจส.ว.เลือกนายกฯได้ เพราะในทางการเมืองมันไม่จริง และรัฐบาลที่มาจากการสนับสนุนของส.ว.ก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ตนให้เวลา 4-5 เดือน ถือว่าอยู่ยาวที่สุดแล้ว เพราะโดยธรรมชาติของการเมืองในระบบรัฐสภา แม้รัฐบาลจะมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แต่รัฐบาลจะเอาเสียงส.ว.มาด้วย เพราะคิดว่าส.ว.เป็นพรรคหนึ่งที่สนับสนุนนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งผิดหลัก เช่น เวลามีการเสนอกฎหมายสำคัญๆ กฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งเป็นกฎหมายการเงิน รัฐบาลจะเอาเสียงที่ไหนผ่านวาระ 1 เพราะ ส.ว.ไม่ได้ลงมาโหวตด้วย หากกฎหมายสำคัญไม่ผ่าน รัฐบาลแพ้โหวตก็มี 2 ทางเลือกคือ ลาออกกับยุบสภา
“หลักการคือ รัฐบาลต้องหาเสียงข้างมากในสภาได้ ถ้ารัฐบาลจะหวังพึ่งเสียงส.ว. รัฐบาลจะถูกคว่ำใน 4-5 เดือน หากรัฐบาลคิดว่าส.ว.เป็นหมอ ช่วยรัฐบาลรักษาโรคได้ ผมคิดว่าตายก่อนไปถึงหมอแล้ว ส.ว.ตั้งรัฐบาลได้ แต่รักษาชีวิตรัฐบาลไม่ได้ เหมือนกับทำคลอดได้ แต่พอตัดสายสะดือก็ตายเลย” นายนิพิฎฐ์ กล่าว
เมื่อถามว่า มองว่าคำถามพ่วงดังกล่าวมีผลต่อการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายนิพิฎฐ์ กล่าวว่า มีผลแน่ และตนเป็นคนหนึ่งที่โหวตไม่รับหากมีคำถามพ่วงแบบนี้ ส่วนคนอื่นคิดอย่างไร ยังไม่รู้ แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคปชป. ตนคิดว่าพรรคต้องแสดงท่าทีเรื่องรัฐธรรมนูญ เพราะพรรคเป็นพรรคใหญ่ เป็นสถาบันการเมือง ไม่แสดงท่าที ไม่ได้ เรื่องรัฐธรรมนูญถือเป็นเรื่องใหญ่ พรรคก็ต้องประกาศท่าทีว่ารับหรือไม่รับ
เมื่อถามอีกว่า การให้พรรคประกาศท่าทีรับหรือไม่รับ ไม่กลัวกฎหมายประชามติ ที่ไม่ให้ชี้นำ และมีบทลงโทษรุนแรง นายนิพิฎฐ์ กล่าวว่า เราไม่ได้ไปถึงกับรณรงให้โหวตคว่ำ และไม่ได้เชิญชวนให้ประชาชนลงมติรับหรือไม่ แต่พรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นนิติบุคคล สามารถประกาศท่าทีได้ ว่ารัฐบาลนี้ไปไม่ได้ เราไม่ได้เห็นชอบด้วยเพราะขัดต่อระบบรัฐสภา