| ที่มา | มติชนรายวันหน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ในยุคที่คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตนอกบ้านกว่า 80% ทำให้ต้องพบเจอกับมลภาวะ หรือสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา ทั้งแสงแดด ฝุ่นละออง มลภาวะในอากาศ รวมถึงสารปนเปื้อนต่างๆ ทำให้คนเราต้องเสี่ยงกับโรคต่างๆ ได้โดยง่าย
พญ.ธิศรา วีรสมัย หัวหน้าศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลพญาไท 1 เผยว่า การที่คนยุคใหม่รับเอามลภาวะและสารปนเปื้อนต่างๆ เข้าไปจำนวนมาก ทำให้บางครั้งร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาต่อต้านออกมาในรูปแบบ ไอ จาม คัดจมูก หายใจไม่ออก แต่หากค่อยๆ สะสมในร่างกายจะเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระ และสารตัวนี้จะทำให้เซลล์เสื่อม ทำลายทั้งโปรตีน ไขมัน และดีเอ็นเอในร่างกาย เกิดขบวนการอักเสบระดับเซลล์ ส่งผลต่อภูมิคุ้มกันในร่างกาย
“ยิ่งเมื่อเซลล์ร่างกายอ่อนแอ จะง่ายต่อการติดเชื้อและเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้มากขึ้น โดยเฉพาะแสงแดดจัดเป็นมลภาวะชนิดหนึ่งที่เลี่ยงยาก เพราะมีทั้งรังสียูวีเอ และยูวีบี ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ผิวหนังเสื่อมสภาพ ผิวพรรณเหี่ยว เกิดริ้วรอย ทำลายการทำงานของคอลลาเจน รวมถึงเยื่อบุตาอักเสบ”
หัวหน้าศูนย์เวชศาสตร์เผยอีกว่า ขณะนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระในรูปแบบต่างๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือ แอสตาแซนธิน เป็นสารสีแดงที่พบในปลาแซลมอน กุ้งตัวเล็ก และพบมากในสาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูเวียลิส ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง ละลายได้ทั้งในน้ำและไขมัน จึงเข้าไปในผนังเซลล์และเซลล์ได้ดี ทำให้ช่วยต่อต้านขบวนการอักเสบ ความเสื่อม และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายได้ สามารถทานคู่กับสารฟอสฟาติดิลโคลีนซึ่งพบได้ในเลซิติน ลดการเมื่อยล้าของสายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์ ต้านขบวนการอักเสบระดับเซลล์ ลดการปวดอักเสบของกล้ามเนื้อได้ หากทานต่อเนื่อง 4-6 สัปดาห์ จะทำให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยหมองคล้ำ ต้านการเกิดริ้วรอยได้
เผื่อผิวสุขภาพดีจากภายใน
