ชาวพิมายโคราชรวมตัวคัดค้านกรมศิลปากรประกาศเขตโบราณสถาน (คลิป)

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมหินทราย เทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา นายดนัย ตั้งเจิดจ้า นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลตำบลพิมาย จำนวนกว่า 400 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการประกาศเขตโบราณสถานเมืองพิมายได้รวมตัวคัดค้านการประกาศเขตโบราณสถานของกรมศิลปากร ภายหลังได้รับหนังสือจาก นายขจร มุกมีค่า รองอธิบดีกรมศิลปากร ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมศิลปากร จำนวน 1,665 ราย โดยรายละเอียดตามหนังสือที่ประชาชนได้รับ เจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินในเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมาย ตามหนังสือที่อ้างถึง กรมศิลปากรได้แจ้งให้ท่านใช้สิทธิ์โต้แย้งการจะประกาศกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมาย ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ไปยังกรมศิลปากรใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่กรมศิลปากรแจ้งให้ทราบนั้น

บัดนี้ครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว กรมศิลปากรประกาศกำหนดเขตที่ดินเป็นเขตของโบราณสถานเมืองพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา พื้นที่ประมาณ 2,658 ไร่ 25 ตารางวา(4,252,900 ตารางเมตร)โดยอาศัยอำนาจตามตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติโบราณสถานโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาเพื่อทราบ และหากท่านไม่เห็นด้วยก็ให้ใช้สิทธิร้องต่อศาลปกครองภายในกำหนด 30 วันนับตั้งแต่วันที่อธิบดีกรมศิลปากรแจ้งให้ทราบ เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้อธิบดีกรมศิลปากรระงับการกำหนดเขตที่ดินให้เป็นโบราณสถานได้ ตามความในมาตรา 7 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน โดยหากท่านมิได้ร้องขอต่อศาลภายในระยะเวลา และเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้วกรมศิลปากรจะดำเนินการประกาศกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมาย ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

นายดนัย ตั้งเจิดจ้า นายกเทศมนตรีตำบลพิมายตัวแทนชาวบ้านที่มาร่วมชุมนุม เปิดเผยว่า การประกาศเขตโบราณสถานเมืองพิมายครั้งนี้ได้สร้างความหวั่นวิตกแก่ประชาชนชาวอำเภอพิมายเป็นอย่างมาก โดยจะมีชาวบ้านกว่า 2,600 หลังคาเรือนในเขตเทศบาลตำบลพิมายได้รับความเดือดร้อน ที่อยู่อาศัยที่เคยอยู่กันมาตั้งแต่บรรพบุรุษและมีเอกสาร หลักฐาน ถือครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อยู่มาวันหนึ่งทางราชการก็จะมาประกาศเพื่อจะยึดไปถือครองแทน ซึ่งชาวบ้านทุกหลังคาเรือนมีความเห็นตรงกันว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและจะรวมตัวคัดค้านไม่ยอมให้กรมศิลปากรประกาศเป็นกฏหมายจนถึงที่สุด ทั้งนี้ชาวบ้านจะใช้มาตรการเจรจากับทางราชการก่อนและจะยื่นเรื่องคัดค้านไปยังรัฐบาลและศาลปกครองต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image