| ผู้เขียน | วุฒิ สรา |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เริ่มขยับเข้าใกล้ โรดแมปเลือกตั้ง ไปทีละนิด ที่แต่ละพรรคเตรียมพร้อมลงสนามสู้ศึก
โดยเฉพาะ สงครามตัวแทน ระหว่าง พรรคพลังประชารัฐ ที่จะดันให้ “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” กลับมานั่งนายกฯโควต้าคนนอกอีกครา กับ พรรคเพื่อไทย ที่จะเป็นตัวแทน “ทักษิณ ชินวัตร” ในการทำศึกครั้งนี้
ทางพรรคพลังประชารัฐ มีพันธมิตรหลายพรรคที่พร้อมจับมือกัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาชนปฏิรูป นำโดย “ไพบูลย์ นิติตะวัน” พร้อมสนับสนุน
พรรคพลังชลของตระกูล “คุณปลื้ม” ที่รัฐบาลตกเขียวมาร่วมก๊วนแล้ว โดยแต่งตั้งให้ 2 พี่น้องมาช่วยงาน
โดย “สนธยา คุณปลื้ม” หัวหน้าพรรคพลังชล เป็นที่ปรึกษานายกฯฝ่ายการเมือง และ “อิทธิพล คุณปลื้ม” เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นอกจากนี้ยังมีพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน กลืนน้ำลายลงมาเล่นการเมือง และพรรคภูมิใจไทย ที่มี “อนุทิน ชาญวีรกูล” และ “เนวิน ชิดชอบ” ก็พร้อมจะหนุน “บิ๊กตู่” เช่นกัน
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์นั้น ติดล็อกหลักการของพรรคที่ต้องเสนอหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ แต่หากต้องเลือกว่าจะสนับสนุนใคร คงจะเป็น “บิ๊กตู่” มากกว่าจะไปรวมอยู่กับพรรคเพื่อไทย
สำหรับพรรคเพื่อไทย แม้ “ทักษิณ” จะไม่มีโอกาสได้กลับมาเป็นนายกฯอีก แต่ต้องรวมพลังที่จะต่อกรให้ถึงที่สุด เพื่อให้ได้เก้าอี้ ส.ส.มากพอที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง โดยมีพันธมิตรอย่างพรรคอนาคตใหม่ ที่พร้อมจะร่วมมือกัน
แต่สถานการณ์ขณะนี้พรรคเพื่อไทยต้องเหนื่อยหนัก เพราะเจอศึกหลายด้านทั้งภายในและภายนอก
ศึกภายในทั้งเรื่องหัวหน้าพรรคที่ยังไม่ลงตัว และมีตัวเลือกไม่มากนัก ที่จะหาคนได้ครบเครื่องทั้งบารมีและทุน รวมทั้งต้องเป็นคนประเภท “ใจถึง พึ่งได้” ที่สมาชิกพรรคและอดีต ส.ส.ให้การยอมรับ
ดังนั้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ จึงเป็นปัจจัยสำคัญว่า จะทำให้พรรคยิ่งใหญ่เหมือนเดิมหรือแฟบลง
นอกจากนี้ ยังมีศึกภายในที่อดีต ส.ส.ในแต่ละจังหวัดจะแบ่งเป็นกลุ่มก๊วน หากเขตเลือกตั้งใหม่หดลง ก็จะแย่งชิงพื้นที่กันเอง แน่นอนว่าอดีต ส.ส.ที่ไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้สมัคร ก็จะย้ายไปสังกัดพรรคใหม่
รวมทั้งมีอดีต ส.ส.บางส่วนแยกตัวไปตั้งพรรคใหม่ อย่างกลุ่ม “วาดะห์” อดีต ส.ส.จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไปตั้งพรรคประชาชาติ
ขณะที่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะกลุ่มต่อต้าน คสช.ก็เป็นฐานเดียวกับพรรคอนาคตใหม่ ที่อาจต้องแย่งชิงคะแนนกันเอง
ขณะที่ศึกภายนอกก็ต้องเจอกับพลังดูด ไม่เพียงจากพรรคพลังประชารัฐ แต่ยังมีพรรคอื่นๆ ที่ร่วมชิงตัวอดีต ส.ส.เพื่อไทยด้วย
ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคก็จะถูก คสช.จับจ้องเป็นพิเศษ ทำให้ขยับตัวยากลำบาก
อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยจะต้องทำศึกเต็มสูบเพื่อให้ “ทักษิณ” กลับมามีอำนาจทางอ้อม
ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ก็จะลุยเต็มที่เพื่อดัน “บิ๊กตู่” นั่งเป็นนายกฯต่ออีกสมัย
การเลือกตั้งครั้งนี้ จึงเป็นสงครามตัวแทนของ “บิ๊กตู่” กับ “นายแม้ว” ในความเหมือนที่มีความต่าง
