ที่มา | ไตร27 |
---|
หลังจาก 2 พี่น้อง“ชินวัตร” ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ กบดานอยู่พักใหญ่ นับจากน้องสาว “อดีตนายกฯหญิงคนแรก” หนีคดีจำนำข้าวจากเมืองไทยไปตั้งแต่ 25 สิงหาคม 2560
มีโผล่ตามโลกโซเซี่ยลบ้างประปราย
แต่เมื่อ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิด”ยิ่งลักษณ์”ครบรอบ 51 ปี
“สองพี่น้องชินวัตร“เปิดตัว เปิดหน้า มารับประทานอาหารร้าน”อีสานเขียว”ในกรุงลอนดอน
ล้อมวงเปิดกระติ๊บจกข้าวเหนียว กินอาหารอีสาน อาหารพื้นบ้านไทยๆ สื่อสารประเด็นต่างๆอย่างเป็นทางการ
มีการสนทนากับสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคน จนปรากฎคลิปแพร่ในสื่อต่างๆ
มีหลายคำพูดของอดีตนายกฯทักษิณ ที่ส่ง“สัญญาณ” หลังโดนพรรคเครือข่ายคสช.เดินสายตกปลาในบ่อเพื่อไทย
อย่าง“แม้จะถูกแทรกซึมด้วยสีเขียว แต่พี่น้องประชาชนจะยังคงเลือกพรรคเพื่อไทย มีการเลือกตั้งครั้งต่อไปชาวบ้านก็จะเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งอีสานอยู่แล้ว”
พร้อมออกโรงเตือนให้กับคนที่จะไปร่วมกับพรรคของทหารว่า “ให้คิดให้ดีๆ นะว่ากำลังทำอะไรอยู่ เพราะเชื่อว่าทุกวันนี้ชาวอีสานไม่เอาฝั่งทหารอยู่แล้ว”
หรือ“ขอบคุณคนที่ย้ายไป เพราะจะได้มีคนใหม่ๆ เข้ามาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน เพราะวันนี้คนรอพรรคเพื่อไทยเข้ามาแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ถ้าเป็นนักการเมืองแล้วยังอ่านตรงนี้ไม่ออกก็ไปเถิด ให้คนใหม่ๆ หรือคนที่เข้าใจชาวบ้าน
เข้าใจพี่น้องประชาชนเข้ามาทำงานแทนดีกว่า ส่วนทุกคนที่ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย เพราะเขาใกล้ชิดกับชาวบ้าน และเขารู้ว่าชาวบ้านต้องการอะไร คือไม่ใช่มีแค่เงินแล้วจะชนะการเลือกตั้งได้”
ทั้งหมดโดนมองว่า กลยุทธ“รีแบรนด์ดิ้ง” ของ“ทักษิณ” เพื่อสร้างความมั่นใจท่ามกลางความระส่ำ จาก“กระแสดูด” หรือไม่
กลยุทธ์นี้เคยใช้ได้ผล เมื่อเลือกตั้ง เมื่อ 3 กรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทย ชูสโลแกน “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ”จนได้ส.ส.265 เสียง เป็นที่มา“นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก”มาแล้ว
จนพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง หยิบมาเป็นประเด็น พิจารณาว่า คำพูด“ทักษิณ“เข้าข่ายม.28 ,29 พ.ร.ป.พรรคการเมือง มิให้ผู้ที่
ไม่ใช่สมาชิกพรรคครอบงำชี้นำพรรคหรือไม่ ซึ่งมีโทษถึงยุบพรรค
งานนี้ถือว่า“ดาวพุธพ่นพิษ”ใส่นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 อีกแล้ว
พรรคเพื่อไทยจะมีหนาว คำรบสองหรือไม่ ติดตามต่อไป
โฟกัสเฉพาะกลยุทธ์ทางการตลาด ช็อตต่อช็อต ระหว่าง ผู้นำคนปัจจุบันที่อยู่ในตำแหน่งกว่า 4 ปี “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ “ทักษิณ” อดีตนายกฯ 2 สมัย
“บิ๊กตู่” อุตสาห์เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล ไปกระทบไหล่เจรจาผลประโยชน์ไทยกับผู้นำ 2 ประเทศ ยักษ์ใหญ่ยุโรป
ถือว่าได้”ภาพบวก”ในฐานะรัฐบาลทหารที่ได้รับการยอมรับจากเวทีสากล
แม้จะโดนหยิบยกเรื่องต่างๆ ตั้งแต่การเมือง ไปจนถึงผ้าพันคอแบรนด์เนมขึ้นมาแซะบ้าง
ตัดภาพไปที่ “บิ๊กแม้ว” ล้อมวงเปิดกระติ๊บจกข้าวเหนียว ร้าน“อีสานเขียว”กลางมหานครลอนดอน แถมฮัมเพลงอีสาน สื่อตรงคนอีสาน และภาพลักษณ์เข้าถึง“รากหญ้า” ก็น่าจะต้องการให้ส่งผลต่อฐานคะแนนในอีกซีกโลก
เบ็ดเสร็จแล้ว มีบวกมีลบ มีผลต่อเนื่องแน่
งานนี้คนแวดล้อม“บิ๊กตู่”ต้องกลับไปคิด ถ้า“ผู้นำคสช.”จะไปต่อ
สิ่งที่ห้ามมองข้ามคือ การบริหารจัดการ เรื่องการตลาด ทั้งเรื่องภาพลักษณ์ และการรับรู้ ต่อกลุ่มเป้าหมายที่ต้องจัดทำอย่างเป็นระบบ
เป็นเกมที่เลี่ยงไม่ได้ในการเมืองสมัยใหม่