| ผู้เขียน | เกษมณี นันทรัตนพงศ์ |
|---|
5 กรกฎาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุเรือล่มในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ถึง 3 เหตุการณ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน ได้แก่ เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ “ฟีนิกซ์ พีซีไดฟ์วิ่ง” ถูกคลื่นลมซัดจนเรือล่มกลางทะเลบริเวณเกาะเฮ หาดราไวย์ เรือ”เซเรนาต้า” ล่มบริเวณเกาะไม้ท่อน และเรือเจ็ทสกีของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียล่มใกล้เกาะราชา กลายเป็นโศกนาฏกรรมอีกครั้ง มีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีนเสียชีวิตจำนวนมากจากที่ถูกคลื่นลมแรงที่มีความสูงถึงราว 5 เมตร ซัดจมดิ่ง ทั้งๆที่มีประกาศเตือนจากทางการแล้วว่าพื้นที่ภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามันห้ามนำเรือออกจากฝั่งเพราะเป็นช่วงมีฝนตกหนักและคลื่นลมแรง
ชื่อของ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ก็ดังกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้ง จนนำไปสู่การสืบค้นเจ้าของเรือฟีนิกซ์เป็นคนไทยจริง หรือแค่เป็น “นอมินี” ของนายทุนชาวจีน กระทั่งล่าสุดตามคดีที่เป็นข่าว ตำรวจท่องเที่ยวได้บุกตรวจค้นบริษัทนำเที่ยว 11 จุด โดยเฉพาะบริษัทเจ้าของเรือฟีนิกซ์ ใน 3 มูลฐานความผิดที่อาจเกี่ยวข้อง คือการฟอกเงิน อั้งยี่ และนอมินี
“ทัวร์ศูนย์เหรียญ” คืออะไร หลายคนคงรู้จักแล้ว ขออธิบายสั้นๆอีกครั้ง คือการซื้อทัวร์จากประเทศของตนเองในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนโดยมีบริษัททัวร์ในไทยซึ่งเป็นกลุ่มก๊วนของทัวร์ศูนย์เหรียญรับช่วงคณะลูกทัวร์โดยไม่ได้ค่าทัวร์แฟร์ แต่ใช้วิธีหารายได้ด้วยการพาซื้อสินค้า พาดูโชว์ ในราคาบวกเพิ่มราว 35-50% กระทั่งมีหลายครั้งที่เกิดเหตุลอยแพลูกทัวร์ หรือแม้กระทั่งการลงมือลงไม้กับลูกทัวร์ที่ไม่ยอมจ่าย!
ทัวร์ศูนย์เหรียญแผ่อิทธิพลมากยิ่งขึ้น เมื่อชาวจีนแผ่นดินใหญ่หลั่งไหลมาเที่ยวไทยหลังร่ำรวยขึ้นจากนโยบายเปิดประเทศที่ทำให้กลุ่มทุนข้ามชาติหลั่งไหลเข้าไปลงทุนสร้างความเจริญและความมั่งคั่งให้กับประเทศและประชาชนจีน
แต่การนิยมมาเที่ยวไทยกลับไม่ได้สร้างความร่ำรวยให้กับธุรกิจคนไทย เพราะรายได้ที่เกิดขึ้นแทบทั้งหมดถูกส่งกลับที่จีน! กระทั่งเมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการด้วยตัวเองให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญอย่างจริงจัง เพราะถือเป็นมะเร็งร้ายบ่อนทำลายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยที่สะสมมานานแล้ว นำมาซึ่งคดีใหญ่คดีหนึ่ง นั่นคือการเข้าจับกุมเจ้าของบริษัท ฝูอัน จำกัด และบริษัท ซินหยวน จำกัด รวมถึงบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด
เป็นการเปิดฉากขุดรากถอนโคนขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่หลายฝ่ายประเมินว่ายังไงก็เจ็บ โดยแหล่งท่องเที่ยวดังอย่างเมืองพัทยา หนึ่งในสถานที่โปรดของนักท่องเที่ยวชาวจีนได้ประเมินตัวเลขช่วงปลายปี 2559 ที่เริ่มกวาดล้างทัวร์ศูนย์เหรียญว่านักท่องเที่ยวจีนหายทันที 90% เช่นเดียวกับที่จังหวดเชียงใหม่ อีกหนึ่งสถานที่โปรด สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจากทัวร์จีนจะลดลงถึง 80%
ที่ยืนยันได้ชัดเจนคือตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เข้าประเทศผ่านท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองและสุวรรณภูมิ เดือนพฤศจิกายน 2559 ในบางวันตัวเลขบางเบาเพียง 4,545 คน เทียบเดือนสิงหาคม 2559 สูงถึงวันละ 12,193 คน
รัฐบาลและภาคเอกชนด้านท่องเที่ยวไทยยอมเจ็บเพื่อจัดระเบียบให้ประเทศได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวจริงๆ ไม่ปล่อยให้เหลือบต่างเผ่าพันธุ์มาสูบจนอิ่ม
กรณีเรือล่มที่ภูเก็ตทำให้รู้ว่า ทัวร์ศูนย์เหรียญยังไม่สิ้นฤทธิ์ แค่พักยกรอฟื้นตัวใหม่
หลังจากนี้รอดูฝีมือรัฐบาล อย่าให้เจ็บตัวครั้งนั้นต้องเสียเปล่า!
