‘อนาคตใหม่’กระแสแรง เตะตัดขาเรื่องธรรมดา

ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มการเมืองยื่นคำขอจดแจ้งเตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองมากถึง 114 พรรค

ในจำนวนนี้ บางกลุ่มบางพรรคมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ภายหลังการเลือกตั้ง

บางพรรคถูกวิจารณ์ว่า เป็นได้เพียงพรรคไม้ประดับ หรือเหล้าเก่าในขวดใหม่ ที่อดีตนักการเมืองย้ายจากพรรคหนึ่งไปอยู่อีกพรรคหนึ่งเท่านั้น

แต่ในบรรดาพรรคใหม่ มี 3 พรรคที่โดดเด่น ถูกจับจ้องจากสังคม

Advertisement

หนึ่งคือ พรรคพลังประชารัฐ ที่มองกันว่า หัวหอกคือ กลุ่มสามมิตร ที่มี “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” “สมศักดิ์ เทพสุทิน” “อนุชา นาคาศัย” เป็นแกนนำ

สองคือ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ยอมตระบัดสัตย์ เข้ามาเป็นแกนนำจัดตั้งพรรค หลังเคยประกาศวางมือทางการเมือง

สามคือ พรรคอนาคตใหม่ ที่มี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” นักธุรกิจ และ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” นักวิชาการด้านกฎหมาย เป็นแกนนำ

Advertisement

โดยใน 3 พรรคนี้ ยังแยกได้เป็น 2 กลุ่ม ยืนอยู่กันคนละฝั่งอย่างชัดเจน คือกลุ่มที่เอาทหาร และกลุ่มไม่เอาทหาร

พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย อยู่ในกลุ่มที่เอาทหาร โดยประกาศสนับสนุน “บิ๊กตู่”

ส่วนพรรคอนาคตใหม่ อยู่ในกลุ่มที่ไม่เอาทหาร เพราะประกาศจุดยืนว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่เอายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมทั้งคำสั่งหรือประกาศต่างๆ ที่เป็นมรดก คสช.

พรรคอนาคตใหม่ ยังเกิดจากการรวมตัวของคนรุ่นใหม่ ที่ส่วนใหญ่จะไม่เคยผ่านเวทีการเมืองมาก่อน ต่างกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ถูกวิจารณ์ว่า เป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่

หากวัดกันด้วยกระแส พรรคอนาคตใหม่ได้รับการตอบรับเหนือกว่าพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย

ทั้งนี้ สวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน พบว่า ในบรรดาพรรคใหม่ทั้งหมด พรรคอนาคตใหม่อยู่ในความสนใจของประชาชนถึง 57.51%

ส่วนพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ทั้งหมด พบว่า พรรคเพื่อไทยยังเป็นเบอร์ 1 อยู่ในความสนใจของประชาชนถึง 55.02% รองลงมาคือ พรรคอนาคตใหม่ 34.18% และพรรคประชาธิปัตย์ 33.88%

แม้กระแสพรรคอนาคตใหม่จะมาแรงจริง ก็เป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนการเลือกตั้งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่กระนั้น พรรคอนาคตใหม่ก็ยังไม่พ้นการถูกเตะตัดขา

มีการกล่าวหาว่า เป็นนอมินี “ทักษิณ ชินวัตร” หรือละอ่อนทางการเมือง รวมทั้งยังหยิบยกเรื่องศาสนาขึ้นมาโจมตี

นอกจากนี้ คสช.ยังแจ้งความเอาผิดเจ้าของเพจเฟซบุ๊กพรรคอนาคตใหม่ และเพจเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

แม้ คสช.จะยืนยันว่า ไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่จะห้าม “ธนาธร” สงสัยว่า มีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ก็ไม่ได้

“ธนาธร” บอกว่า คิดไว้แล้วว่า เมื่อเล่นการเมืองจะต้องมีเรื่องแบบนี้ แต่ไม่คิดว่า จะมาเร็วกว่าที่คิด

ซึ่ง “ธนาธร” คงรู้ว่า เรื่องที่เจอะเจอยังเป็นแค่น้ำจิ้ม ยังมีเรื่องที่ต้องเจอมากกว่านี้อีกเยอะ

เพราะ “การเมือง” มีทั้งเกมและยุทธวิธีสารพัด มีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image