“ทักษิโณมิกส์” ปะทะ “ประชารัฐ” นำการเมืองพ้นวัฏจักรน้ำเน่า

อ่านข่าวการเมืองวันนี้ เหมือนย้อนไปอ่านข่าวเก่าเหมือน 20 ปีที่ผ่านมาอย่างไม่ผิดเพี้ยน

ภาพนักการเมืองจำพวกหน้าเก่าๆ คนเก่าๆ จับกลุ่มรวมตัวเดินสายจีบอดีตส.ส.ก็ไม่พ้นพวกคุ้นหน้าคุ้นตา กลุ่มคนพวกนี้ทำการเมืองไม่ต่างเป็นพวกนายหน้า หรือ ล็อบบี้ยีสต์ ทาบทามอดีตส.ส.เข้ามาร่วมด้วยเงื่อนไขต่างๆนานา ซึ่งหนีไม่พ้นผลประโยชน์ส่วนตัวนำหน้า เอาผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นเรื่องรอง

ส่วนพรรคนอมินีของรัฐบาล ถ้าไม่พลิกโผหนีไม่พ้น พลังประชารัฐ ที่ใช้กลุ่มทุนเครือข่ายประชารัฐ เรื่องทุนรอนไม่ต้องพูดถึง น่าจะสายป่านยาวกว่าเพื่อน ก็ใช้กลยุทธ์ทั้งพระเดชพระคุณ นอกจากยื่นเงื่อนไขผลประโยชน์เป็นตัวตั้ง ยังบีบด้วยคดีความที่ติดตัวอดีตส.ส.ทั้งขู่ทั้งปลอบ

บรรดานักการเมืองตกยุคบางพวกที่หลงใหลอำนาจ ก็ไปหลงเหลี่ยมเล่นตามบทที่เค้าวางเอาไว้ หารู้ไม่ว่านอกจากซ้ำเติมให้การเมืองเสื่อมทราม กลับไปสู่วัฏจักรน้ำเน่าแบบเดิมๆแล้วยังทำให้ชาวบ้านเอื้อมระอา ส่ายหน้าเบื่อหน่ายการเมืองเข้าไปอีก

Advertisement

การเมืองยุคปฎิรูป ชาวบ้านคงอยากเห็นพรรคการเมืองระดมสมอง คิดค้นหานโยบายที่เจ๋งๆ เอามาแก้ไขปัญหาปากท้อง ในยิ่งภาวะ “รวยกระจุก จนกระจาย” รัฐบาลใช้ตัวเลข จีดีพีโตคุยโว แต่การขยายตัวก็ยังกระจุกเฉพาะคนกลุ่มบน ส่วนคนกลุ่มล่าง หรือ “ฐานราก”กลับไม่ได้อานิสงส์

รัฐบาลก็คงรู้อยู่เต็มอก ล่าสุดพลิกเกมวางเชื้อ นโยบายสอดรับชื่อ “พรรคพลังประชารัฐ” หลังครม.สัญจรครั้งล่าสุด ไฟเขียว ร่าง พ.ร.บ.การจัดประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม กำหนดจัดตั้งกองทุนประชารัฐฯ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

สาระสำคัญ คือ ออกกฎหมายฉบับนี้ก็เพื่อรองรับแผนการดำเนินงาน มาตรการ หรือโครงการเกี่ยวกับประชารัฐสวัสดิการสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” หวังให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงตีกินหาเสียงระหว่างเลือกตั้ง

Advertisement

เบื้องต้นคงจะจัดสรรงบประมาณกลาง 2,730 ล้านบาทเติมให้กองทุนเป็นเชื้อนำร่องไว้ก่อน
ขณะที่พรรคเพื่อไทยต้นแบบ “ประชานิยม” ก่อนเพี้ยนมา “ประชารัฐ” กลายเป็นเสือซุ่ม มอบหมาย “พิชัย นริพทะพันธุ์” อดีต รมว. พลังงาน กำลังระดมสมองปรับปรุงแนวคิด “ทักษิโณมิกส์” เป็นเวอร์ชั่นใหม่

ทักษิโณมิกส์เวอร์ชั่นใหม่นี้ นำหลักคิดทางเศรษฐกิจเดิมในสมัยพรรคไทยรักไทยที่ประชาชนชื่นชอบมาพัฒนาต่อยอด โดยชื่อ ทักษิโณมิกส์ นี้ อดีตประธานาธิบดี อาร์โรโยของประเทศฟิลิปปินส์เป็นผู้ตั้งให้ในปี 2546 และพยายามจะนำไปใช้พัฒนาประเทศฟิลิปปินส์ จนกลายเป็นชื่อสากลที่รู้จักกันทั่วโลก ดังนั้น ชื่อทักษิโณมิกส์นี้ จึงไม่ได้มีการครอบงำแต่อย่างใด

คล้ายกับการนำแนวคิดเศรษฐกิจแบบเคนเซี่ยน ของจอร์น เมย์นาร์ด เคนส์ หรือ เรแกนโนมิกส์ ของอดีตประธานาธิบดีเรแกน แล้วนำมาพัฒนา แนวคิดหลักๆคือ การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และ ขยายโอกาส ประกอบกับการพัฒนาเศรษฐกิจแบบคู่ขนาน (Dual Track)ที่พัฒนาเศรษฐกิจขนาดใหญ่ด้านบนไปพร้อมกับพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ลดช่องว่างของรายได้ พัฒนาให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี

พร้อมๆกับบลัฟ “รัฐบาลบิ๊กตู่”ว่าแนวคิดนี้จะมาแก้ไขไม่ให้ประชาชนรู้สึกว่าทำไมเศรษฐกิจโดยรวมขยายตัว แต่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกว่าดีขึ้นเลยแต่กลับแย่ลง

เพื่อสร้างความหวังและความสุขให้กับประชาชนได้ทันทีตั้งแต่วันแรกหากพรรคเพื่อไทยได้เข้าบริหารประเทศโดยไม่ต้องรอ 4 ปีแล้วค่อยมาคิดทำ

พรรคเพื่อไทยเพียงรอประกาศปลดล็อคพรรคการเมือง จะมีการเสนอ “ทักษิโณมิกส์” เวอร์ชั่นใหม่นี้เข้าสู่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และที่ประชุมพรรค เพื่อพิจารณาทำเป็นนโยบายของพรรคต่อไป

เชื่อว่าจะทำให้ความนิยมของพรรคเพื่อไทยพุ่งสูงและเป็นความหวังของประชาชนได้อย่างแน่นอน
การเมืองเริ่มเข้มข้น ต้องจับตานโยบาย ประชารัฐ ปะทะ ทักษิโณมิกส์ ใครจะถูกใจชาวบ้านมากกว่ากัน
เล่นการเมืองต้องสร้างสรรค์กันอย่างนี้ อย่าไปหลงเหลี่ยมตกบ่อน้ำเน่าที่คสช.ขุดบ่อล่อเอาไว้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image