“ปชป.”หมากในกระดานชิงอำนาจ นักวิชาการฟันธง! เลือกตั้ง ปี’62 ซื้อเสียงหนักสุด

สำหรับศึกชิง’ประมุขพรรคประชาธิปัตย์’นั้น สแกนล่าสุดยังมี 3 ชื่อ ยังติดโผ เป็น”แคนดิเดต”

คือ”บิ๊กจ้อน” นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

“เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก

Advertisement

หากเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ทั้ง “ชื่อชั้น” และ “บารมี” ตลอดจนเสียงสนับสนุนในพรรค ปฏิเสธไม่ได้ 2 แคนดิเดต เทียบชั้น “หัวหน้ามาร์ค” ได้ยาก

แต่ที่”บิ๊กจ้อน”ขอแจ้งเกิดเวทีนี้ คนภายในพรรควิจารณ์ว่า เป็นการหา”แลนดิ้ง”ให้ตัวเอง หลังจากออกพรรคไปหรือไม่

ส่วน”หมอวรงค์”ที่โดดลงมานั้น ก็เพราะความใจถึง ยิ่งผนึกกับ”พี่วร”ของน้องๆ “นายถาวร เสนเนียม” แห่งเมืองระโนด สงขลา ซุปเปอร์ใจถึง พึ่งได้ ถึงไหนถึงกัน

ทั้งหมอวรงค์ และนายถาวร ต่างประสานเสียงว่า การลงมาดวล ชิงหัวหน้าพรรคครั้งนี้ ไม่ได้อยู่ในร่มเงาของบิ๊กกปปส.

ปฏิเสธข่าวการใช้อาคาร อาคารทู แปซิฟิคเพลส สุขุมวิท เป็น”วอร์รูม”

แต่ใช้บ้านริมคลองประปา ถนนสามเสน ของ “พี่วร” เป็นที่รวมศูนย์

พร้อมกัน ไม่ให้ “ขิง”นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ อดีตส.ส.กทม. ดาวรุ่งของปชป. ลูกเลี้ยงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ทรงอิทธิพลแห่งพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.)เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

เคลียร์ประเด็นให้ชัดเจนว่า ที่รวมจับกลุ่มกันที่คอนโดฯของ”ขิง”นั้น เป็นการเดินสายไปทำความเข้าใจในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค

ลูกเลี้ยงของนายสุเทพ ที่”ฝากเลี้ยง”อยู่ จะได้พ้นสภาพโดนหวาดระแวงจากผู้มีอำนาจปชป.ขณะนี้

แต่งานนี้ในพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม ไม่มีใครเชื่อ ว่า “กำนัน”ไม่เข้ามาชักใยอยู่ข้างหลัง

พร้อมให้จับตา คดีบางคดี จะออก”หัว”หรือ “ก้อย”

จะทำให้อ่านหมากอำนาจกระดานนี้ออกว่า วางเกมเล่นกันอย่างไร ?

แต่ที่น่าสนใจ คือข้อมูล นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต

หนึ่งในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ผู้เชี่ยวชาญปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จะมีการทุจริตซื้อเสียงอย่างรุนแรงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

“การเลือกตั้งในปีหน้า จะเกิดการทุจริตทางการเมืองที่มีมูลค่าความเสียหายมหาศาลและรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะไม่มีการเลือกตั้งทั้งในระดับชาติและท้องถิ่นมานานถึง 4 ปี บรรดานักการเมืองจึงต้องการเอาชนะเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งและอำนาจ”

โดยนายสังศิตชี้ว่า “ยิ่งมีการห้ามหาเสียง และกฎหมายเลือกตั้งใหม่ที่กำหนดข้อบังคับในการหาสมาชิก โดยสมาชิกต้องจ่ายเงินส่วนตัวสมัครเป็นสมาชิกพรรค 100 บาท แน่นอนประชาชนทั่วไปย่อมไม่สนใจที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรค ดังนั้นนักการเมืองจึงต้องใช้วิธีเกณฑ์หรือจ่ายแทน เพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกพรรค ดังนั้นในการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการซื้อเสียงกันอย่างมหาศาลกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มา”

อันนี้แหละคือสิ่งที่น่ากังวล เพราะถ้าเป็นอย่างนี้เรายังอยู่ใน”วงจรอุบาทว์การเมือง”กันต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image