| ที่มา | มติชนออนไลน์ |
|---|---|
| ผู้เขียน | พันธศักดิ์ รักพงษ์ |
เมื่อพล็อตเรื่องวางไว้แล้ว ในที่สุดพระเอกของเรื่อง “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ก็เปิดตัวตนว่าสนใจการเมือง สอดคล้องไทม์มิ่งประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐ ที่อิมแพค เมืองทองธานี ในวันที่ 29 ก.ย.นี้
จับตาดูการเปิดตัวพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้ให้ดี เพราะการเดินเกมนั้นมาไกลถึงขั้นมีดีลลับการเมือง จับมือสร้างพันธมิตรจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้ากันแล้ว
อย่าแปลกใจ“บิ๊กตู่”ใช้อำนาจม.44 แต่งตั้ง “สนธยา คุณปลื้ม” แกนนำพรรคพลังชล นั่งนายกเมืองพัทยา เพราะดีลการเมืองนั้นลงตัว จำยอมต้องเว้นวรรคพรรคพลังชล ไม่ถึงขั้นต้องยุบ แค่การเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่ส่งผู้สมัครลงสู้ศึกหนนี้
อย่ากระพริบตา หากจะเห็นหน้าแกนนำพลังชลไปโผล่เป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ แม้กระทั่งตัวผอ.พรรคอาจมีคนของพลังชลเข้าไปนั่งทำหน้าที่ พร้อมเงื่อนไขการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีเพียงผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐลงสนามเป็นตัวแทนของฝั่งพันธมิตรทหารเพียงเท่านั้น
ไม่แตกต่างจากการดีลกับพรรคขนาดกลาง อย่างเช่น พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย หรือ แม้แต่พรรคขนาดเล็กชาติพัฒนา อยู่ในขั้นตอนการเจรจา เพราะฝั่งคสช.ต้องการให้ยุบ หรือ เว้นวรรค กวาดต้อนผู้คนให้มาอยู่ด้วยกัน สร้างความเป็นปึกแผ่นตามแนวทางพรรคพลังชล
เพราะภายใต้เงื่อนไขแต่ละพรรคที่แตกต่างกัน เช่น รุ่นพ่อสั่งไว้ว่าอย่ายุบให้เดินหน้าทำพรรคต่อไป หรือ แม้แต่พรรคเล็กต่อรองขอท่อน้ำเลี้ยงช่วงเลือกตั้งหลังจากนั้นสัญญาจับมือเป็นพันธมิตรแน่นอน แต่เสียงก้องจากไทยคู่ฟ้าที่ว่า “รังเกียจกันหรืออย่างไร ถึงไม่มาอยู่ร่วมกัน”
สุดท้ายเชื่อว่ามีอย่างน้อย 1พรรค เดินตามพลังชลส่งแกนนำไปร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ เว้นวรรคพรรคไว้ชั่วคราว ส่วนพรรคที่เหลือคงไม่พ้นจำยอมตกปากรับคำ ร่วมพันธมิตรทหารตามวิถีการเมืองแน่นอน
ปัญหาใหญ่อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ ตัวแปรสำคัญของพันธมิตรทหาร เพราะก้างชิ้นโตคือ ท่าทีของ“เดอะมาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ตั้งท่าไม่ร่วมทำงานกับทหาร
คสช.จำเป็นต้องเข้าแทรกแซงผ่าน “สุเทพ เทือกสุบรรณ”แกนนำกปปส. เพื่อเปลี่ยนหัวหน้าพรรค เป้าหมายแรกเสนอดัน “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” ขึ้นมานั่งแท่นแทน แต่ “อู๊ดด้า” ปัดข้อเสนอ จึงต้องเบนเข็มมาที่ “หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม” อดีตส.ส.พิษณุโลก สังกัดกปปส. เข้าท้าชิงแทน
แม้ศึกครั้งนี้ไม่ง่ายนัก แต่ถ้าสำเร็จก็ทำให้พันธมิตรร่วมรัฐบาลครั้งหน้ามั่นคงและมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ตามเกมการเมืองหลงยุคโดดเดี่ยว “พรรคเพื่อไทย” ผลักให้ไปยืนขั้วฝ่ายค้าน
เดินหน้าเข้าสู่โหมด “บิ๊กตู่” สืบทอดอำนาจ เพราะรัฐบาลทหารรู้ว่าแม้มี 250 ส.ว.อยู่ในมือก็มีค่าแค่เลือกนายกฯได้ แต่พันธมิตรรัฐบาลทหารย่อมมีเสียงส.ส.ที่มั่นคงทำให้บริหารประเทศได้
