| ผู้เขียน | วรรณมณี บัวเทศ |
|---|
ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตนักกอล์ฟเบอร์ 1 ของโลก คว้าแชมป์ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว จนได้รับความสนใจจากแฟนกีฬาและสื่อเป็นจำนวนมาก
คนที่ไม่ค่อยได้ติดตามกอล์ฟบางคนอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมการแชมป์นี้ถึงเป็นเรื่องใหญ่ชนิดสื่อต่างประเทศหลายสำนักต้องพยายามรายงานแบบเกาะติดสถานการณ์ อีกทั้งตามเจาะลึกแง่มุมต่างๆ มานำเสนอ โดยเฉพาะการป้อนคำถามกับทั้งทีมสหรัฐและทีมยุโรปก่อนศึกกอล์ฟประเพณี ไรเดอร์คัพ* ที่ฝรั่งเศส ช่วงสุดสัปดาห์นี้
เหตุผลนั้นเป็นเพราะสถานะของไทเกอร์ วู้ดส์ ในวงการกีฬาโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งวงการกีฬาตะวันตกนั้น ถือว่าอยู่ในระดับ A++ นั่นเอง
ในยุครุ่งเรืองสุดสุด ไทเกอร์เป็นนักกีฬาที่มีรายได้ต่อปีสูงที่สุดในโลกติดต่อกันหลายปีซ้อน ด้วยฟอร์มการเล่นน่าตื่นตาตื่นใจเข้าขั้น “ไร้เทียมทาน” เวลาลงแข่งแต่ละครั้งมีลุ้นแชมป์ทุกรายการ บ่อยครั้งที่ทำได้สำเร็จ แถมยังทำสกอร์ทิ้งห่างคู่แข่งแบบเหนือชั้นอยู่บ่อยๆ
นับจากตำนาน แจ๊ค นิคลอส ที่แฟนๆ และสื่อยกให้เป็นนักกอล์ฟที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ ก็เห็นจะมีแต่ไทเกอร์ที่คนยอมรับในวงกว้างให้เป็น “ที่สุด” ของยุคปัจจุบัน ด้วยจำนวนแชมป์พีจีเอทัวร์ 80 รายการ ที่ขาดอีกเพียง 2 ครั้งจะเท่าสถิติสูงสุดตลอดกาลของ แซม สนีด ตำนานสะวิงผู้ล่วงลับ และแชมป์เมเจอร์ 14 รายการ ซึ่งขาดอีก 4 ครั้งจะทาบสถิติสูงสุดของนิคลอส
เวลาไทเกอร์ลงเล่นจะมีออร่าความเก่งแบบเหนือกว่าคู่แข่งไปอีกระดับ อารมณ์เหมือนเวลาแฟนบอลยกย่อง ลิโอเนล เมสซี่ หรือทีม บาร์เซโลน่า ในช่วงพีคสุดสุดว่าเป็น “ทีมต่างดาว” ยังไงยังงั้น
ไทเกอร์ในมุมมองของสื่อและแฟนๆ ในช่วงนั้นจึงเป็นซุปเปอร์นักกีฬาเหนือมนุษย์ จับต้องไม่ได้ แต่แฟนๆ ก็รักที่จะติดตามความสำเร็จ
ขณะที่บรรดาสปอนเซอร์ก็พุ่งเข้าหา จนเขาครองตำแหน่งนักกีฬาทำเงินสูงที่สุดในโลกหลายปีซ้อน โดยปีที่พีคที่สุดคือปี 2008 ซึ่งปีนั้นปีเดียวทำรายได้ทั้งในและนอกสนามรวม 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,680 ล้านบาท) ขณะที่ปัจจุบันรายได้รวมของเขาทะลุ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (48,000 ล้านบาท) ไปแล้วเรียบร้อย
กระทั่งปลายปี 2009 ชีวิตที่อยู่บนยอดสุดของไทเกอร์ วู้ดส์ ก็ดิ่งลงเหวไร้ก้นแบบไม่คาดฝัน เริ่มจากอุบัติเหตุประหลาดๆ ที่เจ้าตัวขับรถชนหัวดับเพลิงหน้าคฤหาสน์ของตัวเองที่ฟลอริดา โดยมีข่าวว่าโดยภรรยา เอลิน นอร์เดเกรน อดีตนางแบบสาวและพี่เลี้ยงเด็กชาวสวีดิช เอาไม้กอล์ฟไล่ฟาด
หลังจากนั้นไม่นาน สื่อต่างๆ เริ่มขุดคุ้ยเบื้องหลังลบๆ ของยอดโปรเบอร์ 1 ของโลก โดยเฉพาะปัญหานอกใจภรรยา และติดเซ็กซ์เข้าขั้นรุนแรง บรรดากิ๊กตัวจริงตัวปลอมตบเท้าออกมาแฉผ่านสื่อกันนับไม่ถ้วน จนไทเกอร์ทนกระแสไม่ไหว ต้องถอนตัวจากการแข่งขันหลายรายการ ขณะเดียวกันก็โดนภรรยาฟ้องหย่า บรรดาสปอนเซอร์หลายเจ้าพร้อมใจตีจาก สุดท้ายเจ้าตัวต้องออกมาแถลงขอโทษทั้งน้ำตาที่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังในพฤติกรรม ก่อนจะหายหน้าหายตาจากวงการเพื่อเข้ารับการบำบัด
หายหน้าไปพักใหญ่ ไทเกอร์เริ่มคัมแบ๊กสู่การแข่งขันด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่แกร่งเหมือนเก่า แฟนๆ หลายคนกลับมาเปิดใจยอมรับเขาในฐานะปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งที่มีทั้งด้านบวกและลบ ไม่ใช่โปรต่างดาวเหมือนที่สื่อและแฟนๆ เคยมองว่าเป็น
ไทเกอร์คว้าแชมป์หนที่ 79 เมื่อปี 2013 หลังจากนั้นก็มาเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรุมเร้า โดยเฉพาะอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จนต้องผ่าหลังหลายรอบ แถมเจ้าตัวใจร้อนรีบกลับมาแข่งจนอาการทรุดไปอีก
ชีวิตมาตกต่ำไปอีกรอบเมื่อไทเกอร์โดนจับข้อหาขับรถขณะมึนเมาเมื่อปีที่แล้ว เพราะจอดรถนอนหลับกลางถนน ผลตรวจพบแอลกอฮอล์และอิทธิพลจากการใช้ยาตามใบสั่งแพทย์
ตลอดช่วงที่เขาหายหน้าจากวงการ เรตติ้งและความสนใจในกีฬากอล์ฟของแฟนๆ ลดลดอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าสื่ออเมริกันจะพยายามปั้นนักกอล์ฟมือ 1 รุ่นกลางและรุ่นเล็กขึ้นมาทดแทนด้วยมองว่ามีทั้งฝีมือและไลฟ์สไตล์ที่ขายได้ อาทิ รอรี่ แม็คอิลรอย, จอร์แดน สปีธ แต่ก็ไม่มีใครที่มี “สตาร์ เพาเวอร์” เพียงพอดึงดูดคนเหมือน ไทเกอร์ วู้ดส์
ดังนั้น ทุกครั้งที่เขากลับมาลงเล่น หรือไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร สื่อและแฟนๆ จึงให้ความสนใจติดตามอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย ด้วยสถานะและความดังในอดีตก็เพียงพอจะทำให้เขากลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ได้เสมอ
ยิ่งการคัมแบ๊กรอบนี้ ไทเกอร์ทำผลงานดี คว้าแชมป์แรกในรอบ 5 ปีมาครอง ปกติตัวตนของเขาก็ดังมากๆ อยู่แล้ว ยิ่งมาเพิ่มสตอรี่ของคนที่ขึ้นสุด-ลงสุดในชีวิตจนกลับมายืนหยัดใหม่ได้อีกครั้ง ยิ่งทำให้เรื่องราวของเขากลายเป็นจุดสนใจมากยิ่งขึ้น
วงการกอล์ฟ โดยเฉพาะพีจีเอทัวร์แฮปปี้ เพราะหมายถึงความสนใจจากแฟนๆ และสื่อที่เพิ่มมากขึ้น สปอนเซอร์ก็จะพุ่งเข้าหา
บรรดาภาคเอกชนที่ดูท่าทีอยู่ห่างๆ ก็คงมั่นใจในอนาคตมากยิ่งขึ้นและพร้อมจะเปิดโต๊ะเจรจาเป็นพันธมิตรด้วย งานนี้คนที่ได้ใจไปเต็มๆ ไม่พ้น ไนกี้ ซึ่งยืนกรานอยู่เคียงข้างไทเกอร์ตลอดช่วงตกต่ำ แม้ว่าหลายๆ แบรนด์จะมองว่าข่าวเสียหายของเขาไม่เป็นผลดีกับภาพลักษณ์สินค้าก็ตาม
แม้กระทั่งโฆษณาตัวล่าสุดที่มีไทเกอร์เป็นพรีเซ็นเตอร์ ไนกี้ก็เล่นกับสถานการณ์ได้ดีว่า “อย่าหยุดไล่ตามความฝันบ้าๆ ของตัวเอง” พอเขาคว้าแชมป์ล่าสุดได้สำเร็จ ก็เล่นคำกับโพสต์ใหม่ทางอินสตาแกรม 2 ภาพต่อกันว่า “He’s done” ต่อด้วย “it again.” ยืนยันถึงความสำเร็จสุดยอดอีกครั้งของเจ้าตัว
สำหรับแฟนๆ ของไทเกอร์ต่างแฮปปี้กันถ้วนหน้า แฟนกอล์ฟที่ไม่ได้ชื่นชอบเขาเป็นพิเศษก็ยังพร้อมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ยืนยันได้จากเสียงปรบมือกึกก้องจากแฟนกอล์ฟเจ้าถิ่นในศึกไรเดอร์คัพวันแรก เพราะสตอรี่ของการคัมแบ๊ก รวมถึงการมีกอล์ฟดีๆ ให้ดูในระยะยาว
เรียกว่าเป็นสถานการณ์ที่วิน-วินสำหรับทุกฝ่าย
รอรี่ แม็คอิลรอย อดีตมือ 1 โลกชาวไอร์แลนด์เหนือ เปรียบความเป็นสุดยอดของไทเกอร์ว่าเหมือนตำนานนักเทนนิสยุคปัจจุบันอย่าง ราฟาเอล นาดาล และ เซเรน่า วิลเลียมส์ ในแง่ผลงานโดดเด่นชนิดใครๆ ก็ยอมรับ
ส่วนตัวไทเกอร์เองตอบประเด็นนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า ถ้าจะเอ่ยถึงตำนานวงการเทนนิสที่เป็นสุดยอด เขาคงต้องเพิ่มชื่อ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ เข้าไปอีกคน
ย้อนไปเมื่อสัก 10 ปีที่แล้ว ตอนที่ทั้งไทเกอร์และเฟเดอเรอร์กำลังอยู่ในฟอร์มไร้เทียมทาน สปอนเซอร์เป็นคนชักนำให้เกิดมิตรภาพต่างวงการ สร้างสตอรี่ของความเป็นนักกีฬาเหนือมนุษย์ที่เข้าใจกันอยู่ 2 คนขึ้นมา
หลายปีผ่านไป แม้เฟเดอเรอร์เริ่มฟอร์มตกตามอายุ แต่ยังรักษามาตรฐานการเล่นในระดับสูงไว้ได้ และที่สำคัญคือการรักษาภาพเชิงบวกจนเป็นที่เคารพของทุกคนในวงการกีฬา
ไทเกอร์ในวันนี้บอกว่า เฟเดอเรอร์เหมือน พีต แซมพราส ตำนานสักหลาดชาวอเมริกัน เวลาเล่นแต่ละช็อตดูง่ายดายเหนือกว่าคนอื่นไปหมด
ส่วนตัวเขาเองเหมือนนาดาลกับเซเรน่าในแง่การฝ่าฟันอุปสรรคและปัญหาต่างๆ เช่นอาการบาดเจ็บและปัญหาส่วนตัวจนกลับยืนหยัดได้อีกครั้ง
คำตอบของไทเกอร์บ่งบอกว่า เขายอมรับสถานภาพของตัวเองว่าไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟกต์เหมือนกับที่สื่อหรือแฟนๆ เคยยกย่อง
เมื่อล้มแล้วลุกได้ แถมยังยอมรับในข้อเสียที่ตัวเองเป็น เผยให้เห็นทั้งด้านบวกและลบ ดูจับต้องได้ขึ้นมาทันที
เรียกว่าเป็นสตอรี่ดีๆ ที่ช่วยกู้ศรัทธาจากแฟนๆ ซึ่งเคยเสียไปได้ไม่น้อย
