ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
ผู้เขียน | พันธศักดิ์ รักพงษ์ |
นับตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. ภายหลัง “ ตู่-จตุพร พรหมพันธุ์” ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้รับอิสระภาพจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร หลังถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2560 ในคดีหมิ่นประมาทอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กรณีปราศรัยใส่ความในที่ชุมนุมนปช.
ในวันที่ถูกปลดโซ่ตรวน “จตุพร” บอกว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปี 15 วันที่อยู่ในคุก ซึ่งดูเสมือนว่าเป็นเวลาที่เนิ่นนาน มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ได้ผ่านความรู้สึกนั้นมาได้ ภารกิจของพวกเรายังต้องเดินหน้าและทำงานต่อไป หนทางข้างหน้าของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นเรื่องของคนไทยทุกคน ที่จะต้องร่วมกันหาทางออก
“หลังจากที่ผมออกจากเรือนจำไปแล้ว จะมีการปรึกษาหารือ หาทางออกให้ชาติบ้านเมือง”
นับจากวันนั้น แม้เราจะไม่ค่อยเห็นภาพ“ตู่” ปรากฎตามสื่อถึงแม้ยังมีบทบาทในฐานะแกนนำคนเสื้อแดงค้ำคอ
ด้วยเพราะปัจจัยและเงื่อนไขพิเศษที่บีบบังคับ แต่ข้อเท็จจริงแล้ว “ตู่” ก็ยังคงเดินเกมและเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ตลอดเวลา แต่เป็นเกมที่ต้องลดบทบาทความเป็น“แดงฮาร์ทคอร์”ให้น้อยลง
“ตู่”เดินสาย พบปะพูดคุยแสวงหาแนวร่วมจากเครือข่ายกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ผ่าน “อดุลย์ เขียวบริบูรณ์”ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ในวงการสนทนาจะมีกลุ่มคนสีต่างๆ ไม่ว่าจะแดง เหลือง สลิ่ม กลุ่มคนหลากสีที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นอริต่อกัน
จึงอย่าแปลกใจ หากเห็นภาพ “อดุลย์ เขียวบริบูรณ์” เปิดเกมเดินสายพูดคุยกับทุกพรรคการเมือง อาทิ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และ ชาติไทยพัฒนา
พร้อมยื่นข้อเสนอ-จุดยืนนำพาประเทศออกจากวิกฤติการเมือง สร้างความสามัคคีปรองดอง แก้วิกฤติออกจากวังวนของเผด็จการทหาร ด้วยเงื่อนไขไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่ร่วมกับคสช. ซึ่งเป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการที่ทำลายประชาธิปไตย
ภาพที่เด่นชัดในบทบาทของ “ตู่” ในวันที่ “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านพักย่านรามอินทรา แถลงข่าว “ทางออกประเทศไทย”
ภาพของ“จตุพร”นั่งเคียงข้าง “บิ๊กจิ๋ว”
ยิ่งย้อนความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง คงต้องย้อนไปช่วงที่พรรคความหวังใหม่เฟื่องฟู บรรดานักข่าวจะเห็น“ตู่”ดอดขึ้นไปพบ“บิ๊กจิ๋ว”บนที่ทำการพรรคย่านถนนพิชัยอยู่เป็นประจำ ซึ่งช่วงนั้น “ตู่” ถือเป็นมือเป็นไม้ของจิ๋วหวานเจี๊ยบในการทำงานด้านมวลชนและนักศึกษา
ยิ่งในวันที่ “พล.อ.ชวลิต” เสนอทางออกประเทศ มองว่า รูปแบบรัฐธรรมนูญปัจจุบันอาจนำไปสู่การทะเลาะกันไม่มีที่สิ้นสุด แทนที่จะปล่อยให้มีการเลือกตั้งแบบนี้ก็อย่ามีเลย เปลี่ยนระบบปัจจุบัน ตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลเข้ามาแก้ปัญหา
สอดรับกับ “จตุพร” ชี้ว่า ประเทศอาจเดินต่อไปด้วยความยากลำบาก ตอนนี้เหมือนเล่นบอลโดยฝั่งตัวเองมี 14 คน แต่คู่แข่งมี 11 คน ย่อมเป็นกีฬาที่ไม่น่าดู เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. สนใจที่จะลงสนามการเมืองในฐานะผู้เล่นคนหนึ่ง ท่านควรลาออกจากการเป็นนายกฯและหัวหน้า คสช. ต้องให้คนกลางเข้ามาทำหน้าที่ในการเป็นกรรมการ
ภาพที่ปรากฎจะทำให้เราเข้าใจบทบาท “ตู่” ในวันที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขพิเศษ จำเป็นต้องลดโทนสีแดงไม่ให้จัดจ้านจนเกินไป
ในวันที่ต้องละทิ้งความเกรี้ยวกราด เพื่อลดปัจจัยความขัดแย้งทิ้งไป