| ผู้เขียน | ภัทรมณี |
|---|
เป็นที่โจษจันไปทั่วทุกวงการเพราะใครๆ ก็รักสัตว์ จากกรณีคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์(ฉบับที่..) พ.ศ… โดยที่เป็นประเด็นคือ จะให้เจ้าของสุนัขแมวขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง และจ่ายค่าตีทะเบียนรวม 450 บาท จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างถึงเรื่องดังกล่าว
ไม่ว่าจะเป็น ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านโรคพิษสุนัขบ้า ที่ออกมาจวกยับว่า การออกกฎหมายนี้ นำมาซึ่งการเปิดช่องทิ้งสัตว์เลี้ยง และเสี่ยงโรคระบาด ทางที่ดีตอนนี้ต้องดำเนินการเรื่องการฉีดวัคซีน และทำหมัน เพื่อควบคุมประชากรสุนัขแมวให้ได้มากที่สุด ต้องทำตรงนี้ให้ได้ดีเสียก่อน และให้มีประสิทธิภาพจริงๆ
ด้านผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ต๊ะ-นารากร ติยายน ก็ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวที่ทั้งอึ้งและกลุ้มกับประเด็นดังกล่าว โดยกลุ้มแรก เจ้าตัวฟันธงว่า จะต้องมีการนำสัตว์มาปล่อยทิ้งเยอะ แน่นอน
กลุ้มที่ 2 พวกป้าๆ ลุงๆ ที่ช่วยเก็บหมาแมวจรจัด หมาแมวถูกทิ้งมาเลี้ยง แบบเตี้ยอุ้มค่อม ต้องลำบากแน่นอน
กลุ้มที่ 3 การกำหนดให้อำนาจท้องถิ่นจัดการ จะนำไปสู่การคอร์รัปชั่น ช่วยพวกพ้อง แน่นอน!!!
พร้อมกับทิ้งคำถามแบบ “คาใจ” ว่า ถามจริง นโยบายนี้ ใครเป็นที่ปรึกษา หรือไปดูงานต่างประเทศมา แล้วอยากทำตามบ้านเค้า ..
ไม่เว้นแม้แต่นักแสดงสาว แก้มบุ๋ม ปรียาดา สิทธาไชย ในฐานะคนรัก เลี้ยงสัตว์ และช่วยเหลือสัตว์ไม่น้อย ก็อัดคลิปวิดีโอสั้นๆ ลงอินสตราแกรมส่วนตัว ข้องใจ จ่ายเงินขึ้นทะเบียนหมาแมวแล้วได้อะไร สัตว์หายหาเจอไหม-ที่ช่วยไว้ใครต้องจ่าย? พร้อมแคปชั่น “ขึ้นทะเบียนหมาแมว450บาท….คูณไปก็น่าจะเกินครึ่งแสน”
อีกหนึ่งคนดังเจ้าของเพจทูนหัวของบ่าว โดย นัชญ์ ประสพสิน ออกมาบอกว่า การขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงนั้น “ควรทำ” แต่น่าจะฝังไมโครชิพให้ด้วย นอกจากนี้ได้ตั้งคำถามว่า ในจำนวนเงิน 450 บาทที่ต้องจ่ายนั้น คนเลี้ยงสัตว์จะได้สวัสดิการอะไรจากรัฐกลับมาบ้าง
ขณะที่ชาวเน็ตก็ต่างออกมาคอมเม้นต์ที่มีความหลากหลาย โดยต่างมีความกังวลกับค่าใช้จ่าย 450 บาท ที่แพงเกินไป โดยเฉพาะค่าขึ้นทะเบียน ที่แพงถึงฉบับละ 50 บาท
โดยเอาไปเปรียบเทียบกับค่าคำร้องทำใบขับขี่ ฉบับละ 5 บาทเท่านั้น
แล้วถ้ามีมากกว่า 1 ตัว คือมี 10 ตัว ต้องจ่ายเท่าไหร่??
แม้กระทั่ง ค่าสมุดประจำตัวสัตว์ ที่มีราคาสูงถึง 100 บาท ที่แพงเว่อร์ เพราะปกติที่ใช้อยู่ตามโรงพยาบาลสัตว์ไม่ฟรี ก็ราคาแค่หลักสิบบาทเท่านั้น
ด้วยมูลค่าที่ “แพงเว่อร์” นำมาซึ่ง “ความไม่ไว้วางใจ” ในระบบราชการที่อาจนำมาซึ่งการ “ทุจริตคอรัปชั่น” ได้ง่าย
เพราะที่ผ่านมาก็มีหลายกระทรวง หลายหน่วยงาน ที่มี “ข่าวทุจริตคอรัปชั่น” ที่บางกระทรวงยังเคลียร์ไม่จบด้วยซ้ำ
แล้วกับเงินมูลค่า 450 บาทที่ดูเหมือนไม่มาก แต่หากคูณด้วยจำนวนสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่ในประเทศ สมมุติคร่าวๆ 1 ล้านตัว ก็ไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์ “โกง” ระดับชาติให้เห็นอีกหรือไม่
ความเดือดร้อนไม่ได้จบแค่นี้ ยังลามไปถึง “ภิกษุสงฆ์” ที่ต้องมานั่งวิตกว่าจะมีใครเอาหมาแมวมาปล่อยที่วัดเพิ่มขึ้นอีกไหม แถมเปรยๆ ที่มีอยู่ 100-200 ตัว ก็เป็นภาระหนักอยู่แล้ว
เลยร้อนถึงเก้าอี้ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หนึ่งคนรักสุนัข เจ้าของสุนัขพันธ์ุบางแก้วที่นายกฯ ตั้งชื่อให้ว่า “เจ้าหมี” ที่ต้องออกมาท้วงกลางครม.ให้พิจารณาให้ดี หลังรมว.เกษตร ชง ยก ม.77 และถึงกับย้อนถาม “จำเป็นอย่างไรจึงต้องออกกฎหมายนั้น”
งานนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จึงต้องออกมาชี้แจงแถลงไขดับกระแสสังคมว่า พ.ร.บ.หมาแมว ยังไม่มีผลบังคับใช้
“ยังต้องพิจารณาปรับแก้อีกมากและต้องใช้เวลานาน ไม่ได้มีผลบังคับใช้ในทันทีทันใด”
เหล่าคนรักหมาแมวฟังแบบนี้ก็ใจชื้นขึ้นหน่อย
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ สะท้อนให้เห็นว่า การทำประชาพิจารณ์เป็นสิ่งสำคัญในการออกกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่งที่มีผลกระทบต่อคนในสังคมวงกว้าง
ไม่ใช่ว่า นึกจะทำอะไรก็ทำ โดยไม่ดูสังคม ไม่วิเคราะห์ถึงปัญหาให้ถ่องแท้ อย่างนี้อาจจะแก้ปัญหาแบบ “เกาไม่ถูกที่คัน” เหมือนเช่นที่ผ่านมา
