| ผู้เขียน | มติ...การเมือง |
|---|
จัดทัพรับศึกเลือกตั้งตามโรดแมป คือ เดือนกุมภาพันธ์ 2562 เป็นที่เรียบร้อย
สำหรับพรรคใหญ่ เจ้าของแชมป์เก่า อย่าง “พรรคเพื่อไทย(พท.)” แบบไม่พลิกโผ
คือ “พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์” ขยับจากรักษาการหัวหน้าพรรคพท. ขึ้นนั่งเก้าอี้ “หัวหน้าพรรรคพท.” ตัวจริง
ขณะที่ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย นั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรคฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค รวม 15 คน ชนิดที่คนในพรรคต้องเชิดชูว่า “เป็นผู้เสียสละ”
ที่น่าสนใจ คือ ระดับ”บิ๊กเนม”ของพรรค ล้วนไม่มีชื่อนั่งเก้าอี้กรรมการบริหารพรรคพท. ให้ต้องเสี่ยงหากเจออุบัติเหตุยุบพรรค
ทุกคนที่มีชื่อว่าจะมานั่งเป็นหัวหน้า รวมทั้งว่าที่นายกฯ ของพรรค ล้วนอยู่ในพื้นที่เซฟตี้โซนทั้งหมด
ทั้ง”คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ขึ้นมานั่งเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พท.
โดยมี “เดอะอ๋อย” จาตุรนต์ ฉายแสง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” อดีตรมว.คมนาคม สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
รวมทั้ง “โภคิน พลกุล” รวมเป็นคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พท.
ช็อตต่อไปคือ ส่ง “ทัพหลวง” แบ่งแกนนำพรรค แยกเป็น 6 สาย ลงพื้นที่ปูพรม สัปดาห์ละ 4 วัน
ตั้งเป้า 1 เดือน ตั้งตัวแทนสาขาพรรคประจำจังหวัด ได้ครบ 76 จังหวัด เพื่อสามารถส่ง ส.ส.ชิงตามกติกา ได้ครบทั้ง 350 เขต
ส่วนจะขับเคลื่อนพท. เป็นทัพหลวงสู้ศึกเลือกตั้งในส่วนของ ส.ส.เขตหรือไม่นั้น ยังมีเวลาตกผลึกได้ถึง 26 พฤศจิกายน
ซึ่งเป็น “เดดไลน์” 90 วัน ที่อดีตส.ส. หรือผู้ที่จะลงรับสมัครเลือกตั้งต้องสังกัดพรรค
แต่ถึงอย่างไร แกนนำพท. ยังมีอีกแผนสำรอง ไว้เตรียมพร้อม หากมีเหตุฉุกเฉินโดนยุบพรรค ก่อนลงสนามเลือกตั้ง
กับกลยุทธ์ ผ่องถ่ายอดีตส.ส.เขต ระดับเกรดเอ เจ้าของแชมป์เก่าจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ไปสังกัดบ้านใหม่
อย่าง “พรรคเพื่อธรรม(พธ.)” ที่มี “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” นั่งเป็นหัวหน้าพรรค สแตนบายรอสัญญาณอยู่
หากสัญญาณและความชัดเจน ในอีกไม่กี่วัน ไฟเขียวให้อดีตส.ส.ของพท. สู้ศึกเลือกตั้งในนามพธ.
เป้าหมายที่วางเอาไว้นั่น คือ จะต้องกวาดเก้าอี้ “ส.ส.เขต” ไม่ให้น้อยไปกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 นั่นคือ 204 เก้าอี้
ส่วนเก้าอี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อาจเป็นหน้าที่ของ “พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)” มาช่วยเก็บแต้ม ให้ได้ยอดรวมบวก-ลบ ไม่น้อยกว่า 250 เสียง
เพื่อเป็นต้นทุนไปจับมือกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ตัวเลขถึง 300 เสียง
แต่ตัวเลขจะถึงหรือไม่ หรือพรรคพท.จะมีกลยุทธ์ใด มาจัดทัพสู้ศึกเลือกตั้งอีก หลังปลดล็อกแบบ 100% คงได้เห็นกัน
