| ผู้เขียน | มติ การเมือง |
|---|
ใกล้เข้าสู่เดดไลน์ 90 วัน ที่อดีตส.ส.หรือผู้ที่จะลงรับสมัครเลือกตั้งส.ส.จะต้องสังกัดพรรค หากโรดแมปเลือกตั้งยังอยู่ที่กำหนดเดิม คือ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562
ห้วงเวลา 90 วันที่อดีตส.ส.จะต้องเลือกสังกัดพรรคได้เพียง 1 พรรค นั่นคือวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้
ทว่าพรรคใหญ่ เจ้าของแชมป์เก่าการเลือกตั้งส.ส.ปี 2554 อย่าง “พรรคเพื่อไทย(พท.)” มีเรื่องต้องให้ต้องตกผลึกให้ได้ก่อนเดดไลน์ 90 วัน ถึงทิศทางและอนาคตของอดีตส.ส.ว่าท้ายที่สุดแล้ว จะปักหลักสู้ศึกเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย หรือพรรคเพื่อธรรม(พธ.)
ซึ่งความเห็นของอดีตส.ส.และแกนนำพรรค แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย
ฝ่ายแรก เห็นว่าควรจะปักหลักสู้ศึกเลือกตั้งส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทย เนื่องจากกระบวนการยุบพรรคเพื่อไทย อาจจะทอดเวลาออกไปเป็นปี
และเพื่อป้องกันความสับสนกับประชาชนที่เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่จะต้องมากาบัตรเลือกตั้งใบเดียวที่จะชี้ขาดทั้งส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ
ไม่ให้คะแนนต้องกระจัดกระจายไปเข้าทางของพรรคคู่แข่ง ที่หวังจะสลายพรรคเพื่อไทย
ไม่ให้ชนะการเลือกตั้งแบบ “แลนด์สไลด์” ตามที่ “เสี่ยแม้ว” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วางเป้าหมายเอาไว้
ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่ง เห็นว่า สถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการยุบพรรค หากเกิดในห้วงที่เปิดรับสมัครเลือกตั้งแล้ว
เท่ากับว่า ผู้สมัครส.ส.จะอยู่ในสภาพถูกลอยแพ ไร้พรรคสังกัด แพ้ฟาล์วก่อนลงสนามเลือกตั้ง
ทางออกที่ดีที่สุด คือ ต้องกระจายความเสี่ยง นั่นคือ โยกย้ายอดีตส.ส.เขตที่ชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2554
ไปลงเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อธรรม และคงชี้แจงทำความเข้าใจกับฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ให้มาเลือกผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อธรรมได้ไม่ยาก
เพราะล้วนเป็น “ดีเอ็นเอ” เดียวกันกับพรรคเพื่อไทย
โดยพรรคเพื่อธรรม ที่มี “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” นั่งแท่นคุมบังเหียนเป็น หัวหน้าพรรคอยู่นั้น จะเรียกประชุมพรรคเพื่อธรรมในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้
เพื่อวางตัวคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครส.ส.ของพรรค ทั้ง 11 คน
รอเพียงสัญญาณว่าจะใช้ พรรคไหนส่งส.ส.เขต สู้ศึกเลือกตั้ง
ส่วนหน้าที่เก็บแต้มเก้าอี้ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเป็นของ “พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)” ที่จะเรียกประชุมจัดทัพวางตัวหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสายตรงของ “เสี่ยแม้ว” เช่นกัน
โดยผู้สมัครส.ส.ที่จะมาเก็บแต้มให้กับพรรคไทยรักษาชาติ นำไปคำนวณเป็นเก้าอี้ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น
แกนนำพรรคจะคัดเอา อดีตส.ส.ที่พ่ายศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2554 หรือที่เรียกว่า อดีตส.ส.ที่คะแนนตกน้ำ
แต่มีเสียงอยู่ในเมืองในหลัก 2-3 หมื่นคะแนน มาลงสนามในเขตที่ไม่ซ้ำซ้อน กับผู้สมัครส.ส. ไม่ว่าจะพรรคเพื่อไทย หรือ พรรคเพื่อธรรม
กลยุทธ์ที่แกนนำพรรควางเอาไว้ นั่นคือ ต้องส่งอดีตส.ส.เขต ที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ลงป้องกันแชมป์ในพื้นที่ ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง และจะต้องชนะด้วยคะแนนที่ทิ้งอันดับ 2 3 4 จากพรรคอื่นๆ ให้ได้มากที่สุด
ส่วนในภาคใต้พื้นที่จุดบอดของพรรคเพื่อไทย ที่ปักธงส.ส.ไม่ได้ จะเป็นหน้าที่ของผู้สมัครส.ส. จากพรรคไทยรักษาชาติ เข้าไปช่วงชิงคะแนน แม้จะแพ้ แต่จะต้องแพ้ให้น้อยที่สุด เพื่อนำคะแนนไปคำนวนเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อให้ได้มากที่สุด
และเมื่อนำมารวมกับตัวเลขส.ส.เขต ของพรรคหลักไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคเพื่อธรรม ให้ได้ตัวเลขส.ส.กลมๆใกล้เคียง 300 ที่นั่งมากที่สุด
ซึ่งจะมีน้ำหนักในการดึงดูด พรรคเอสเอ็มแอล ให้เข้ามาร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีและร่วมรัฐบาล ได้ไม่ยาก
ทั้งหมดทั้งมวลจึงเป็นโจทย์ทางคณิตศาสตร์การเมืองของพรรคเพื่อไทย และพรรคพันธมิตร
จะต้องไปหาสูตร เพื่อให้ได้คำตอบดังกล่าว ในศึกเลือกตั้งปี 2562
