เสียงเตือน ‘สุเทพ’ ที่ต้องฟังให้ได้ยิน แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย ‘แม้ว’ กวาด 300 ที่นั่ง

ไทม์ไลน์วันกาบัตรเลือกตั้ง วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ถูกย้ำให้ชัดเจนอีกครั้งจากปากของ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี

หากไม่มีปัจจัยแทรกซ้อน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้ง 52,457,576 คน จะได้เข้าคูหากาบัตรเลือกตั้ง ส.ส. 500 คน ด้วยบัตรเลือกตั้งใบเดียว

เลือกทั้ง ส.ส.เขต 350 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน แบบที่ไม่ให้คะแนนตกน้ำ ด้วยระบบเลือกตั้ง “จัดสรรปันส่วนผสม”

ในทางการเมืองแต่ละพรรค ทั้งพรรคใหญ่ พรรคเล็ก หน้าใหม่ หน้าเก่า ต่างเริ่มขยับทำกิจกรรมยึดพื้นที่สื่อ
หวังช่วงชิงคะแนนเสียงมาเปลี่ยนเป็นเก้าอี้ ส.ส.ของแต่ละพรรค ที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าใครจะจับมือกับใครเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน

Advertisement

ขณะเดียวกันในส่วนของพรรคใหญ่ อย่าง พรรคเพื่อไทย (พท.) ต้องแก้เกมการเลือกตั้งที่ใช้บัตรใบเดียว
ที่เข้าใจกันง่ายๆ คือ หากได้จำนวน ส.ส.เขตมาก จะไปส่งผลให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อลดน้อยลงตามไปด้วย

พรรคเพื่อไทยจึงต้องงัดสารพัดกลยุทธ์ ทั้ง “แยกกันเดินรวมกันตี” หรือ “แตกเพื่อโต”

ขึ้นมาสู้กับกติกาการเลือกตั้งที่หวังไม่ให้คว้าชัยเลือกตั้ง ส.ส.แบบแลนด์สไลด์ เหมือนแต่ก่อน

Advertisement

ด้วยการแตกไลน์พรรค ทั้ง พรรคเพื่อธรรม (พธ.) พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ไปขับเคลื่อนเพื่อหวังเก็บแต้ม ส.ส.บัญชีรายชื่อ

กับเป้าหมายที่ “เสี่ยแม้ว” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วางไว้ว่า พรรคแนวร่วมของเพื่อไทยและพันธมิตรจะได้เก้าอี้ ส.ส.รวมกันแล้วอยู่ที่ตัวเลขกลมๆ บวก-ลบ 300 ที่นั่ง กุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

แม้กลยุทธ์ดังกล่าวจะเป็นไปตามทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติ กูรูทางการเมืองหลายคนยังไม่การันตีว่าจะทำได้จริงหรือไม่

แต่ในมุมของผู้คร่ำหวอดทางการเมือง อย่าง “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.)

ที่ผุดแคมเปญ “เดินคารวะแผ่นดิน” เพื่อทดสอบความนิยมชมชอบในฐานเสียงของมวลมหาประชาชนกลุ่ม กปปส.ในอดีต

ที่เจอทั้งปรากฏการณ์ “คืนนกหวีด” และเสียงก่นดาขับไล่ว่าเป็นชนวนเหตุของการรัฐประหาร

ส่งผลกระทบถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่ซึมยาวมากว่า 4 ปี โดยเฉพาะในระดับล่างต่างบนกันอุบว่า เงินในกระเป๋าไม่งอกเงย

ซึ่ง “สุเทพ” ออกมาเตือนเครือข่ายพันธมิตรและแนวร่วมที่ประกาศตัวสนับสนุน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.

ที่ส่งสัญญาณอาจจะคัมแบ๊กลงสู่สนามการเมือง ผ่าน พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับเป้าหมายเก้าอี้ นายกฯอีกสมัยว่า อย่าประมาทและวางใจยุทธศาสตร์ “แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย” ของ “ทักษิณ” ที่เคยประกาศไว้ว่าจะได้ ส.ส. 300 ที่นั่ง

แบ่งเป็น พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เจาะกลุ่มวัยรุ่น พรรคประชาชาติ (ปช.) เจาะตลาด 3 จังหวัดชายแดนใต้

แน่นอน เมื่อผู้คร่ำหวอดทางการเมือง อย่าง “สุเทพ” ที่ใช้เวลา 2 เดือนครึ่ง ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลที่นำ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นั่งเก้าอี้นายกฯได้สำเร็จเมื่อปี 2551 ส่งเสียงเตือน จึงเป็นเรื่องที่พรรคและเครือข่ายที่สนับสนุน “บิ๊กตู่” จะต้องฟังให้ได้ยิน

ยิ่งผลสำรวจของนิด้าโพลล่าสุดออกมาระบุว่า ประชาชน 95.8% พร้อมไปกาบัตรเลือกตั้ง จนนักวิเคราะห์การเมืองต่างฟันธงไปในทิศทางเดียวกันว่า อาจจะได้เห็นปรากฏการณ์ “มาเลเซีย” และ “พม่า” โมเดลอีกครั้ง ในการเลือกตั้งของประเทศไทย

ที่ประชาชนตื่นตัวออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันอย่างถล่มทลาย ถ้าไม่มีการเลื่อนกาบัตรในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 62 ออกไป

หากตัวเลขผลการเลือกตั้งออกมาในทิศทางใด นั่นคือ “ฉันทามติ” ที่ประชาชน มอบให้พรรคการเมืองนั้นได้บริหารประเทศ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image