| ผู้เขียน | สัญญา รัตนสร้อย |
|---|
การประชุม 7 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นเจ้าภาพประชุมพรรคการเมือง บรรยากาศคงจะกร่อยหน่อยๆ
ในเมื่อการเมือง 3 ขั้ว อันประกอบด้วย ขั้วเพื่อไทย ขั้วประชาธิปัตย์ ขั้วพลังประชารัฐ ต่างคนต่างเดินตามอุดมการณ์และเป้าหมายของตัวเอง
มีสองขั้วคือ เพื่อไทยและประชาธิปัตย์ ยืนยันชัดเจนแล้ว ไม่ขอร่วมสังฆกรรม
ภายใต้เหตุผล ไม่มีอะไรใหม่ แค่แจ้งเพื่อทราบ หาใช่ต้องการรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองแต่ประการใด
เป็นเพียงกระบวนการให้พรรคการเมืองไปรับทราบแผนและขั้นตอนการเลือกตั้ง ที่มีพิมพ์เขียวรอไว้แล้ว
แหวกไปจากแนวคำสั่งที่ 53/2560 ข้อ 8 ของคสช.เสียเอง ที่ระบุให้เชิญหรือไม่เชิญพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง เพื่อร่วมจัดทำแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมือง
ที่สำคัญพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งในบทบาทนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.
กำลังเพิ่มหมวกแคนดิเดตนายกฯอีกใบ ตามที่พลังประชารัฐภูมิใจเสนอ
พล.อ.ประยุทธ์กลายเป็น “ผู้เล่น”อีกสถานะ
นำมาสู่คำถาม นั่งเป็นประธานการประชุมแผนงาน ขั้นตอนการเลือกตั้ง มีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด
ทั้งที่ภารกิจดังกล่าว แกนหลักต้องเป็นหน้าที่ของ กกต.
ว่ากันถึงภารกิจของ กกต. จัดการเลือกตั้ง ก็ยังดูเหมือนมีเค้าลางอุตลุดสับสนเอาเรื่อง
โดยเฉพาะรูปแบบบัตรเลือกตั้ง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดให้หมายเลขผู้สมัครแม้อยู่พรรคเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันไปในแต่ละเขต
หมายถึงบัตรเลือกตั้งต้องมี 350 รูปแบบตามจำนวนเขตเลือกตั้ง 350 เขต ทั้งจัดหาโรงพิมพ์ ทั้งเทคนิคป้องกันการปลอมแปลง นำความยุ่งยากขึ้นมาทันที ซ้ำร้ายเริ่มพูดกันหนาหู บัตรเลือกตั้งเที่ยวนี้อาจไม่มีชื่อและโลโก้พรรคกำกับไว้ด้วย
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาฯกกต.ก็ยอมรับว่า ขณะนี้รูปแบบบัตรยังไม่ชัดเจน แต่เตรียมการไว้หลายรูปแบบภายใต้ปัจจัยโรงพิมพ์สามารถพิมพ์ได้ทันหรือไม่ โลโก้พรรค 350 เขตก็แตกต่างกัน 350 เขตก็ 350 แบบ ค่อนข้างลำบากสำหรับการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นบัตรจริง บัตรปลอม มีเคมีพิสูจน์ได้ หากเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 คงไม่มีปัญหาถ้าพิมพ์เฉพาะหมายเลข แต่ถ้าพิมพ์โลโก้ ชื่อพรรคด้วย ศักยภาพโรงพิมพ์อาจจะทำไม่ทัน คงพิมพ์ได้เฉพาะหมายเลขผู้สมัครและช่องกากบาท
ผู้มีสิทธิ์หย่อนบัตรประเภท “เลือกคนที่รัก” เน้นตัวบุคคลคงไม่กระไร
แต่กลุ่ม “เลือกพรรคที่ใช่” เห็นทีต้องซด “ถั่งเช่า” ตั้งแต่วันนี้
