| ผู้เขียน | วุฒิ สรา |
|---|
อดีต… 86 ปีของรัฐธรรมนูญไทย จากการปฏิวัติสยาม เมื่อ 24 มิถุนายน 2475 ที่ “คณะราษฎร” เปลี่ยนรูปแบบการปกครองประเทศจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยออก พ.ร.บ.ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว 2475 ประกาศใช้เมื่อ 27 มิถุนายน 2475
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรง รัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม 2475 เมื่อ 10 ธันวาคม 2475 เป็นรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของไทย โดยยกเลิกพ.ร.บ.ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว 2475
นับแต่นั้นมาถือกันว่า 10 ธันวาคมเป็นวันรัฐธรรมนูญ ในอดีตถือเป็นวันสำคัญของชาติมีการจัดงานฉลองรัฐธรรมนูญกันอย่างยิ่งใหญ่หลายวัน หลายคืน โดยเฉพาะในกรุงเทพฯที่ลานพระบรมรูปทรงม้าและสนามหลวง ที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาทรงประกอบพิธีสมโภชรัฐธรรมนูญ และทอดพระเนตรการออกร้าน
10 ธันวาคม 2477 มีงานเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ด้วยการแห่รัฐธรรมนูญตามแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วยังมีการประกวด “นางสาวสยาม” เป็นครั้งแรกด้วย
ปี 2478 ครม.ยังมีคำสั่งเพิ่มวันหยุดราชการวันรัฐธรรมนูญ จากเดิมหยุด 1 วัน คือ 10 ธันวาคม เป็นหยุด 3 วัน คือ 9-11 ธันวาคม
จากวันนั้นถึงวันนี้ ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญ ทั้งฉบับชั่วคราว และฉบับถาวร จนถึงปัจจุบัน รวมแล้ว 20 ฉบับ
ด้วยเพราะมีการรัฐประหารบ่อยครั้งที่ต้องฉีกรัฐธรรมนูญเก่าและร่างฉบับใหม่มาแทน นับตั้งแต่ 1 เมษายน 2476 ที่พระยามโนปกรณ์นิติธาดา นายกฯขณะนั้นประกาศพ.ร.ฎ.ปิดสภาผู้แทนราษฎร และงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา
จนถึงครั้งล่าสุดเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในขณะนั้น เป็นผู้นำคณะรัฐประหารในนามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นับเป็นรัฐประหารครั้งที่ 13 ของไทย และพล.อ.ประยุทธ์ นั่งเป็นนายกฯมาจนถึงทุกวันนี้
ปัจจุบัน…เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนจะมีการเลือกตั้งใหม่ บรรดานักการเมืองที่ถูกดองเค็มมานาน เริ่มได้น้ำเตรียมออกสู้สนามเลือกตั้ง
แม้จะเริ่มก้าวพ้นจากประตูเผด็จการเข้าสู่แดนประชาธิปไตย แต่ทว่าการเมืองไทยยังอยู่กับวังวนเดิม เป็นการต่อสู้ชิงอำนาจของฝ่ายต่างๆ ที่นำประชาชนมาเป็นข้ออ้าง
ฝ่ายผู้มีอำนานในปัจจุบัน ก็ออกแบบกฎเกณฑ์เอื้อให้กับกลุ่มตัวเอง ที่ตั้งพรรคการเมืองใหม่ต่อท่ออำนาจอยู่ต่อ เพื่อไม่ให้เสียของกับสิ่งที่ทำมาและหาทางลงจากหลังเสือให้ปลอดภัย
ขณะที่บรรดานักการเมืองทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ ยังเน้นไปกับวาทกรรมไล่ถล่มฝ่ายตรงข้าม มากกว่าจะแข่งกันโชว์นโยบาย เล่นเกมใต้ดินทุกวิถีทางเพื่อชัยชนะของตัวเอง เมื่อเข้าไปมีอำนาจก็หาช่องทางโกงกินกัน ทำให้ชาวบ้านเอือมระอา
อนาคต…ไม่เพียงแค่ไทยที่ติดหล่มกับการเมืองที่เหลวเละ หลายประเทศก็เจอคล้ายๆ กัน โดยเฉพาะปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นจากบรรดานักการเมืองขี้ฉ้อ อย่างเช่นเกาหลีใต้ แม้ผู้นำโสมขาวหลายคนจะถูกศาลตัดสินลงโทษไปแล้ว แต่คนเกาหลีใต้ยังไม่ไว้วางใจนักการเมืองของตนเอง
จึงมีแนวคิดพัฒนาหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) เป็น “นักการเมือง AI” โดยป้อน “บิ๊กดาต้า” เข้าไปทั้งรัฐธรรมนูญประเทศตัวเองและของประเทศต่างๆ ข้อมูลเศรษฐกิจ ข้อมูลด้านสังคม และข้อมูลอื่นๆ ประเทศตัวเองและของโลก ถรวถึงข่าวสารต่างๆ ให้ “นักการเมือง AI” วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อกำหนดนโยบายด้านต่างๆ พร้อมข้อมูลด้านคุณธรรม จริยธรรมการเป็นนักการเมืองที่ดีต้องทำอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศมากที่สุด
นอกจาก “นักการเมือง AI” จะเฉลียวฉลาดแล้ว ยังตรงไปตรงมา ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่รับเงินเดือน ไม่กินใต้โต๊ะ
ที่ญี่ปุ่น “หุ่นยนต์ AI” เล่นหมากรุกล้มแชมป์โลกมาแล้ว ที่จีน ล่าสุดสำนักข่าวซินหัว เพิ่งเปิดตัว “ผู้ประกาศข่าวปัญญาประดิษฐ์” ภาคภาษาอังกฤษตัวแรกของโลก ที่รายงานข่าวด่วนได้ทุกเวลา
ดังนั้น หากอนาคตจะมี “นักการเมือง AI” บ้าง จะเป็นไรไป ไม่แน่ว่าอาจดีกว่า “มนุษย์นักการเมือง” ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
