มลพิษฝุ่นควัน “ตายผ่อนส่ง”ได้เวลารถยนต์ไฟฟ้าหรือยัง?

สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไม่ครอน (PM2.5) เกินค่ามาตรฐานในปีนี้ ถือว่าทำให้ผู้คนตื่นกลัวต่อปัญหาสุขภาพมากกว่าปีที่ผ่านมา

สาเหตุเพราะแนวโน้มมลพิษเหล่านี้ มีแนวโน้มจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะนี้เริ่มมีประชาชนในพื้นที่ฝุ่นควันมีปัญหาสุขภาพ และยังมีความกังวลต่อเนื่องในอนาคตว่าจะทำให้เกิดโรคร้ายแรงตามมาในระยะยาวหรือไม่

ปัญหาก็คือ ที่ผ่านมาประชาชนมีความรู้ในสิ่งเหล่านี้น้อยมาก

เพราะความตื่นตัวและตอบสนองของหน่วยงานรัฐ ต่อการนำเสนอข้อมูลข่าวสารให้กับประชาชนได้รับรู้รับทราบข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างเชื่องช้า

Advertisement

ส่วนใหญ่ข้อมูลข่าวสารในเรื่องนี้จะมาจากโลกออนไลน์ ซึ่งบางครั้งความจริงไม่ครบถ้วนเพียงพอ หรือไม่ถูกต้อง
จึงทำให้ความตื่นกลัวของประชาชนยิ่งขยายวงไปเรื่อยๆ

ผู้คนจำนวนมากต้องไปดิ้นรนหาหน้ากากมาใส่ จนทำให้เกิดการกักตุนหน้ากากจนขาดตลาด
ทั้งที่ความจริงแล้วแทบจะช่วยกันฝุ่นจิ๋วที่เล็กขนาดนี้ไม่ได้เลย

หรือรุ่นที่กันฝุ่นดังกล่าวนี้ได้ ก็ไม่สามารถนำมาใส่แล้วใช้ชีวิตแบบปกติได้ และยังต้องศึกษาวิธีใส่ให้ถูกวิธีจึงจะป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งเหล่านี้เกิดจากความตื่นกลัวของประชาชน และการขาดความรู้ความเข้าใจในข้อมูล

แต่ในเมื่อสถานการณ์บานปลายมาถึงขนาดนี้ เกิดฝุ่นละอองจิ๋วกระจายไปหลายพื้นที่

มาตรการที่นำออกมาใช้ส่วนใหญ่ จึงเป็นการแก้ไขเฉพาะหน้า ทั้งการฉีดน้ำ ทำฝนเทียม เพื่อบรรเทาวิกฤตทางอากาศที่เกิดขึ้น

สิ่งสำคัญปัญหาใหญ่ขนาดนี้ จะต้องแก้ไขจากต้นตอของปัญหา

รัฐบาลนับจากนี้ ไม่ว่าจะมาจากพรรคไหนก็ตาม จะต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันปัญหานี้

พรรคการเมืองต่างๆ ควรจะนำเสนอทางแก้ไขปัญหาการลดมลพิษทางอากาศที่กำลังทำให้คนไทยตายผ่อนส่ง
โดยเฉพาะมลพิษจากไอเสียรถยนต์ ต้นเหตุสำคัญของปัญหา

จะต้องมีโครงการสนับสนุนให้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เพื่อให้มีราคาถูก ประชาชนเข้าถึงได้
โดยไม่ต้องเกรงใจค่ายรถยนต์รายใหญ่ ที่ยังไม่มีรถยนต์ไฟฟ้า เหมือนที่ผ่านมา

ควรจะกำหนดโครงสร้างภาษีเพื่อจูงใจให้เข้ามาผลิตหรือนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

ทำควบคู่ไปพร้อมกับมาตรการจำกัดการใช้งานรถยนต์เก่าที่ก่อมลพิษให้เหมาะสม
อาจจะให้นำรถเก่าไปแลกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ในราคาส่วนลดพิเศษ หรือผ่อนระยะยาว โดยมีฝ่ายรัฐให้การสนับสนุน

ดีกว่าจะต้องมาคอยฉีดน้ำหรือทำฝุ่นหลวงไล่ฝุ่น ในช่วงวิกฤตกันแบบนี้ทุกปี ไม่ดีกว่าหรือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image