‘แม้ว’ ท้าชน ‘บิ๊กตู่’ วัดเรตติ้ง ‘กู๊ดมันเดย์ VS คืนความสุข’

ความเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ที่โพสต์รูปพร้อมข้อความในไอจี @thaksinlive ระบุเกี่ยวกับการจัดรายการในเว็บไซต์ thaksinofficial.com ในชื่อ “Good Monday รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก กับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร”

“แม้ว” ให้รายละเอียดว่า รายการดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะตนเสียดายเวลา 12 ปีที่อยู่ในต่างประเทศ ได้เห็นความเจริญและความล้าหลังของหลายประเทศในโลก ได้พูดคุยกับผู้นำประเทศทั้งปัจจุบันและอดีตผู้นำทางธุรกิจ นักวิชาการ นักเทคโนโลยีทั่วโลก จึงอยากมาเล่าสู่คนไทยทุกคน ทุกวันจันทร์ตื่นมาทำงานอยากรู้ว่าสิ่งที่เราทำมาหากินทุกวันนี้ มันยังดีอยู่หรือไม่ ต้องปรับเปลี่ยนอะไร เผื่อความคิดและประสบการณ์ที่นำมาเล่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแนวทางการทำมาหากิน หรือการศึกษาอบรมให้ลูกหลานได้บ้าง ก็ถือว่าเป็นความสุขใจแล้ว

“ทักษิณ” ประเดิมจัดรายการครั้งแรกเป็นเวลา 12 นาที มีเนื้อหาขยายความถึงเศรษฐกิจโลกในปี 2019 และ 2020 ที่จะกระทบกับธุรกิจรายย่อย ปากท้องและคุณภาพชีวิตของคนไทย ที่ตนเป็นห่วงคือเศรษฐกิจปลายปีนี้ ต่อด้วยต้นปีหน้า ค.ศ.2020 แต่เป็นวัฏจักรของระบบการเงินโลกที่น่าจะมีปัญหา เศรษฐกิจโลกจะอ่อนแอ ลงหรือเกิดภาวะวิกฤตซึ่งจะเป็นแรงกระแทกใหม่ต่อเศรษฐกิจไทย เราคงจะหนีภาวะนี้ ไม่ได้มีทางเดียวคือต้องปรับตัวให้คนข้างล่างรวมตัวกันแข็งแรง คนต้องเก่งกว่าหุ่นยนต์ อย่าไปหนี ต้องสู้กับมันนั่นคือหลักของตน อย่าไปหนี สู้กับมันดีกว่าง่ายกว่าหนี วันนี้ประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อมตรงนี้

ทั้งนี้ “ทักษิณ” บอกว่า “ถ้าวันจันทร์ไหนว่างจะมาพูดกับพี่น้อง อาจเป็นจันทร์เว้นจันทร์ หรือบางจันทร์ก็อาจติดกัน จะพยายามเล่าอะไรให้ฟังให้เป็นความรู้ดีกว่า เรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ก็ไม่ค่อยอยากเสียเวลาพูด เราพูดกันแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตพวกเราดีกว่า”

Advertisement

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ย่อมไม่ธรรมดา เพราะอยู่ในช่วงไทม์ไลน์เข้าสู่โหมดเลือกตั้งใหญ่ช่วง 24 ก.พ. หรือ 24 มี.ค.นี้

รายการ Good Monday ที่เน้นเรื่องของเศรษฐกิจ และความเปลี่ยนแปลงของโลก ถือว่าตีเข้าแสกหน้าจุดอ่อนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่โดนกระหน่ำเรื่องปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจแย่ คนไทยกระเป๋าแฟบ

ทันทีที่ “บิ๊กตู่” รู้ข่าวก็แสดงสีหน้าหงุดหงิด ยิ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความเคลื่อนไหวของทักษิณถึงกับสะบัดหน้าหนีทันที ตอบเสียงดังว่า “เฮ้ย ไม่พูด ขี้เกียจฟัง”

Advertisement

อย่าลืมว่า “บิ๊กตู่” ก็ทำสงครามข้อมูลข่าวสารเชิงรุกกับประชาชนเพื่อสร้างการรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับผลงานของรัฐบาลผ่าน 2 รายการสำคัญ คือ 1.รายการเดินหน้าประเทศไทย ช่วงเวลา 18.00 น. ของทุกวัน และ 2.รายการคืนความสุขให้คนในชาติ ทุกคืนวันศุกร์ เวลาประมาณ 20.15 น.

โดยเฉพาะรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ที่จัดโดย “บิ๊กตู่” ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นรายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืน”

ทั้ง 2 รายการอาจกล่าวได้ว่าตั้งแต่ปฏิวัติรัฐประหาร มีการปรับรูปแบบรายการหลายต่อหลายครั้งเนื่องจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ารูปแบบการนำเสนอจืดชืด ไม่มีพลังดึงดูดความสนใจจากประชาชน

ซึ่ง “มานะ ตรีรยาภิวัฒน์” คณบดีคณะนิเทศศาสตร์การตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย วิเคราะห์ว่า “ผู้นำประเทศยังคงใช้ช่องทางการสื่อสารแบบเดิมๆ ขณะที่รูปแบบและพฤติกรรมการเสพสื่อของประชาชนเปลี่ยนไปย่อมเป็นผลให้รูปแบบการรับชมหรือรับฟังเนื้อหาสาระข้อมูลข่าวสารเปลี่ยนตามไปด้วย เพราะประชาชนไม่จำเป็นต้องถูกบังคับให้นั่งอยู่หน้าจอทีวีตลอดเวลา เพราะประชาชนมีทางเลือกอื่นเยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ เช่น ไลน์ เฟซบุ๊ก ยูทูบ เป็นต้น จึงเป็นเหตุให้เรตติ้งรายการนายกฯ ลดลง”

เช่นเดียวกับ “บิ๊กตู่”ออกมายอมรับผ่านรายการเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมาว่า ” การที่ผมออกมาพูดวันศุกร์ผมพูดมา 3 ปีกว่าแล้ว หลายคนอาจจะไม่ได้ติดตามหรือติดตามน้อย หรือติดตามแล้วอาจไม่เข้าใจ ผมคิดว่าบางครั้งอาจใช้คำพูดที่ยากเกินไปหรือมีเรื่องมากเกินไป บางคนก็รู้สึกเบื่อ แต่อยากให้ทุกคนได้ฟังรายละเอียดทั้งหมดว่าที่ผมพูดมามีความมุ่งหมายอะไร มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไรทำเพื่อใคร ผมไม่อาจจะอ้างว่ามาทำประโยชน์แล้วทุกคนต้องรักผม ไม่ใช่ ผมอยากให้ทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน เข้าใจถึงความมุ่งมั่น ความปรารถนาดีที่เรามีต่อกัน”

เชื่อว่าจากนี้กระแสสังคมต้องจับตารายการบังคับให้คนฟังของ “บิ๊กตู่-คืนความสุข” กับรายการของ “ทักษิณ- กู๊ดมันเดย์” ที่เปิดเสรีให้คนฟังผ่านเว็บไซต์

เพื่อเปรียบเทียบว่าใครจะโชว์กึ๋นถูกใจชาวบ้านและวัดกระแสเรตติ้งว่ารายการของใครจะเจ๋งกว่ากัน …

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image