“บิ๊กตู่” โชว์เป็นกลาง แต่งตัวรอเกี้ยว เสี่ยงคอยเก้อ

วันเลือกตั้งชัดเจนแล้วคือ วันที่ 24 มีนาคมนี้ แต่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ยังไม่ชัดเจนว่า จะเลือกอยู่ในบัญชีนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ หรือรอเกี้ยวมาเชิญให้เป็นนายกฯ คนนอก

และทั้งที่รับรู้กันว่า พรรคพลังประชารัฐ ที่มี 4 รัฐมนตรีเป็นแกนนำ เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ จากการเลือกตั้ง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับเบรกนโยบายของแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่มีแนวคิดจะเปลี่ยนที่ดิน สปก.4-01 ให้เป็นโฉนดทองคำ เพื่อให้เปลี่ยนมือ ซื้อขายโอนเช่าได้ หรือให้ใช้ทำอาชีพอื่นๆ ได้นอกจากเกษตรกรรม

ทำให้สงสัยกันว่า ทำไมต้องดิสเครดิตพวกเดียวกันเอง หรือ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการปรับภาพลักษณ์ตัวเองใหม่ หรือจะเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ในการก้าวขึ้นเป็นนายกฯ

มีคำตอบหนึ่งจากวงสนทนา ที่วิเคราะห์ทีเล่นทีจริง ไม่มีลับลวงพราง
ว่ากันว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า มีการประเมินหรือสุ่มทำโพลแล้วพบว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น พรรคพลังประชารัฐจะแพ้พรรคเพื่อไทย

Advertisement

ยิ่งพรรคเพื่อไทย ได้ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีข่าวว่า จะมีชื่อในบัญชีนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย มาช่วยหาเสียง ยิ่งทำให้คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้น

ยังมี “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ที่จัดรายการ”กู๊ด มันเดย์”ทุกวันจันทร์ ก็ช่วยทำให้กระแสของพรรคเพื่อไทยก็ดีวันดีคืน

มองกันว่า พรรคพลังประชารัฐที่เป็นรองอยู่แล้วต้องคิดหนัก เพราะถูกพรรคเพื่อไทยทิ้งห่างมากขึ้น
ถึงพรรคพลังประชารัฐจะแพ้เลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่จะไม่สง่างาม

พล.อ.ประยุทธ์ ที่มี 250 ส.ว.เป็นตัวช่วย ถึงจะเป็นนายกฯ ก็ไม่สง่างามเช่นกัน
หากต้องการความสง่างาม การรอเทียบเชิญเป็นนายกฯ คนนอก อาจจะเป็นทางเลือกใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะปฏิเสธพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคอื่นๆ โดยไม่ขอเป็นเบอร์ 1 ในบัญชีนายกฯ เพื่อขอเป็น”กรรมการ”ทำหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งให้สงบเรียบร้อย

การเบรกนโยบายเปลี่ยนที่ดิน สปก.ให้เป็นโฉนด ก็มองว่า เป็นหน้าที่ของ”กรรมการ” ที่จะชี้แจงและติติงว่า อะไรควรไม่ควร อะไรจริงอะไรเท็จ ฯลฯ

การเป็น”กรรมการ” ที่ต้องวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้ง ยังจะช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ดูดีขึ้น จากข้อกล่าวหาเรื่องการเอารัดเอาเปรียบในเรื่องต่างๆ

ทั้่งยังจะไม่มีกระแสเรียกร้องให้ทิ้งเก้าอี้นายกฯ
รวมถึงไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ หรือนำไปเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย กับบุคคลที่มีชื่อในบัญชีนายกฯ ของพรรคต่างๆ

แผน “นายกฯ คนนอก” นี้ รู้กันอยู่แล้วว่า ถึงพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะติดเสียง 250 ส.ว. เว้นแต่จะรวบรวมเสียง ส.ส.และส.ว. ให้ได้ 376 เสียงขึ้นไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่าย

เมื่อตั้งรัฐบาลไม่ได้และเกิดทางตัน ก็จะมีส.ส.และส.ว.เข้าชื่อเสนอให้ปลดล็อก ให้มีนายกฯ คนนอก ตามบทเฉพาะกาล รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 272 ประกอบมาตรา 159

เมื่อทางโล่ง ก็จะมีคนมาเชิญไปนั่งเป็นนายกฯ คนนอก ที่มองว่า สง่างามกว่าแผนเดิม และอาจจะทำให้เกิดความภาคภูมิใจที่ไม่มีใครเหมาะสมเป็นนายกฯ อีกแล้ว

แต่แผนนี้ ก็ต้องระวัง เพราะหวยที่ออก อาจจะไม่ใช่ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา”
จึงต้องรอว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเลือกเส้นทางไหน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image