‘แมนฯยู-โซลชาร์’ ใกล้หมดเวลา ‘ฮันนีมูน’

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ประสบกับความปราชัยครั้งแรกหลังจากพ่ายให้ ปารีส แซงต์แชร์แมง คาถิ่น 0-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อกลางสัปดาห์ เป็นการยุติสถิติไร้พ่ายที่ยืดยาวมา 11 นัด (ชนะ 10 เสมอ 1) นับตั้งแต่อดีตแข้งดังชาวนอร์เวย์เข้าไปรับช่วงคุมทีมปีศาจแดงต่อจาก โชเซ่ มูรินโญ่

หลังจบเกมดังกล่าว แฟนบอลหลายคนสรุปเหมือนๆ กันว่า ในที่สุดแมนฯยูก็ได้เจอ “ของจริง” หรือได้กลับสู่ความเป็นจริงสักที หลังจากฮึกเหิมกับผลงานที่ผ่านมาอยู่นาน มีกระทั่งคำถามว่าโซลชาร์ยังเหมาะสมที่จะได้เซ็นสัญญาคุมทีมถาวรหลังจบฤดูกาลนี้หรือไม่?

12 นัดที่ผ่านมา คู่แข่งของแมนฯยูที่ถือว่า “เกรดเอ” จริงๆ มีแค่เปแอสเชกับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ (พรีเมียร์ลีก) และ อาร์เซน่อล (เอฟเอคัพ) เท่านั้น ถึงโซลชาร์จะพาทีมผ่านด่านทดสอบของไก่เดือยทองและปืนใหญ่มาได้ แต่เมื่อเจอของแข็งระดับปารีสก็เอาไม่อยู่ ทั้งที่ทีมดังแห่งฝรั่งเศสขาดตัวหลักอย่าง เนย์มาร์ และ เอดินสัน คาวานี่ ซึ่งมีปัญหาบาดเจ็บแท้ๆ

แมตช์กับปารีส เกมไม่ถึงกับขาด แต่ด้วยคุณภาพของนักเตะเปรียบเทียบกัน ประกอบกับความประมาทในศักยภาพของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ทำให้แมนฯยูและโซลชาร์ได้รับบทเรียนสำคัญ

Advertisement

การแพ้ครั้งแรกของผีแดงทำเอาแฟนๆ อึนไปบ้าง อาจไม่ถึงขั้น “จุก” เหมือนกับแฟน เชลซี ในเวลานี้ แต่ก็คงทำให้รู้สึกหวั่นใจไม่ใช่น้อยเนื่องจากหลังจากนี้แมนฯยูจะเจอโปรแกรมหนักติดๆ กัน ไล่ตั้งแต่เชลซี, ลิเวอร์พูล คั่นด้วยคริสตัล พาเลซ กับเซาแธมป์ตัน ก่อนเจอกับเปแอสเชรอบสอง จากนั้นจึงเป็นอาร์เซน่อลและแมนฯซิตี้

ก่อนหน้านี้ก็มีคนพูดกันว่า ผู้บริหารแมนฯยูฉลาด เลือกจังหวะเหมาะในการปลดมูรินโญ่ เพราะช่วงนั้นโปรแกรมของปีศาจแดงถือว่าไม่หนักมาก ถ้าโซลชาร์เรียกขวัญกำลังใจและปลุกความเชื่อมั่นของลูกทีมคืนมาได้ ก็น่าจะทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง ต่อให้สะดุดไปบ้างก็ยังไม่เสียหาย

เพียงแต่คงไม่มีใครคาดว่าผลงานจะดีเหลือเชื่อถึงขั้นเกือบจะเก็บชัยชนะได้ 100 เปอร์เซ็นต์ถึง 11 นัด ทำให้เกิดความหวังลึกๆ ขึ้นมาว่าจะสามารถสานต่อความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่อง

ช่วงเวลาสวยงามในการออกสตาร์ตงานกับสังกัดใหม่ โลกกีฬาตะวันตกนิยมเรียกกันว่าช่วง “ฮันนีมูน” ทุกอย่างหอมหวานสวยงาม เต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ แต่สุดท้ายต้องมีวันจบลงกลับไปเผชิญกับความเป็นจริงที่อาจไม่สวยงามนัก

เมื่อสิ้นสุดช่วงฮันนีมูน ทุกคนต้องพร้อมยอมรับความเปลี่ยนแปลงและความผิดหวังที่อาจจะตามมา มากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับว่าเตรียมตัวรับมือมาดีขนาดไหน

หลังจากนี้ผีมีโปรแกรมหนักๆ รออยู่ ซึ่งถ้ามองจากความเป็นจริง โอกาสจะลุ้นเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก น่าจะเป็นอะไรที่ริบหรี่ที่สุด เพราะนัดแรกแพ้ในบ้านมาแล้ว 0-2 แม้จะไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ในการเยือนเปแอสเช แต่ก็เป็นไปได้ยาก

ถ้าทุ่มเทจะเก็บชัยชนะให้ได้ อาจเสี่ยงต้องเสียผู้เล่นไปกับปัญหาบาดเจ็บมากขึ้น อย่างเกมเตะนัดแรกกับเปแอสเช ทั้ง เจสซี่ ลินการ์ด กับ อองโตนี่ มาร์ซิยาล สองแนวรุกก็มีปัญหาบาดเจ็บ

ดังนั้น โซลชาร์อาจต้องยอมตัดใจทิ้งถ้วยใหญ่ใบนี้ไปแล้วเตรียมตัวกับภารกิจสำคัญอย่างการพาทีมติดอันดับท็อปโฟร์คว้าโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าให้ได้ หลังจากสามารถไต่ขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ได้สำเร็จ จากเดิมที่โดนมองข้ามไปแล้ว

หมดช่วงฮันนีมูนแล้ว แฟนๆ ผีต้องเผื่อใจรับความผิดหวังไว้บ้าง แล้วมองความเป็นจริง มองเป้าหมายที่เป็นไปได้จริง อย่างแชมป์เอฟเอคัพ (ที่ยังเหลืออีกหลายรอบ) หรืออันดับท็อปโฟร์พรีเมียร์ลีก อย่างน้อยให้ผ่านตรงนี้ไปก่อนค่อยมาฝันให้ใหญ่โตขึ้นในฤดูกาลถัดไปก็ยังไม่สาย

เพราะถ้าลงเอยด้วยดี โซลชาร์ก็น่าจะได้รับความไว้วางใจให้ทำทีมต่อแบบถาวร (ตอนนี้ก็มีข่าวแว่วมาเป็นระยะๆ ว่า เขาเป็นตัวเต็งที่จะได้เซ็นสัญญาคุมทีมอยู่)

แต่ถ้าหมดฮันนีมูนแล้วผลงานผีเริ่มแย่ถึงขั้นกู่ไม่กลับ ความสัมพันธ์นี้อาจลงเอยด้วยการหย่าร้าง

แล้วมองหาคนใหม่ที่(คิดว่า)เหมาะสมกว่า เพื่อลุ้นกับอนาคตสดใสที่ไม่รู้จะมาถึงเมื่อไรต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image