นิวส์รูมวิเคราะห์ : จับตา “รถยนต์ไฟฟ้า”- เดินหน้า “5จี” ชี้ชะตาไทย-ไปได้แค่ไหน!?

เป็นที่รู้กันดีว่าการแข่งขันในโลกปัจจุบัน รุนแรงขนาดไหน พิสูจน์ได้จากการเปลี่ยนแปลงรอบข้างตัวเรา เป็นไปอย่างรวดเร็ว

ดังนั้น เราจำเป็นต้องก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในเรื่องเทคโนโลยี จะต้องคิดให้ทัน คิดให้ต่าง มองผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

ยกตัวอย่างเช่น เรื่องที่สำคัญที่นักลงทุนต่างชาติกำลังจับตาดูประเทศไทยแบบ “ไม่ยอมกระพริบตา” เพราะกลัวจะกระโดดเกาะขบวนรถที่สำคัญนี้ไม่ทัน

นั่นก็คือ นโยบาย “รถยนต์ไฟฟ้า” กับนโยบาย “5จี”
ต้องยอมรับว่าปัญหาเรื่องมลพิษเป็นปัญหารุนแรง และจะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากไม่หาทางป้องกัน หายนะมาเยือนแน่นอน

Advertisement

แต่ท่าทีของภาครัฐในการเอาใจใส่กับเรื่องนี้ ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยเอาจริงเอาจังเท่าไหร่
เพราะเพียงแค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

และประกาศว่าจะส่งเสริมอุตสาหกรรม การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยถามไปยังค่ายรถยนต์ต่างๆว่าสนใจลงทุนหรือไม่

แค่นี้คงไม่เพียงพอ

ควรจะมีมาตรการสร้างแรงจูงใจเข้มข้นกว่านี้ หากจะผลักดันให้เกิดขึ้นจริง
ขึ้นกับว่าผู้รับผิดชอบเห็นความสำคัญและเข้าใจทิศทางแนวโน้มของโลกได้อย่างกระจ่างชัด มีวิสัยทัศน์เพื่อประชาชนอย่างแท้จริงแค่ไหน

วิธีการที่บีโอไอไปสอบถามค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ ซึ่งกำลังลงทุนผลิตรถยนต์เทคโนโลยีปกติอยู่ในขณะนี้ และกำลังจะกลายเป็นเทคโนโลยีโบราณไปในอนาคตอันใกล้นี้

แล้วค่ายรถหน้าไหนจะสนใจจะลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าที่จะมาแข่งขันกับตัวเอง ก็ต้องตอบมาว่าไม่สนใจแน่นอนอยู่แล้ว

ภาครัฐจะต้องยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ส่งเสริมให้เกิดการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามากๆ คิดภาษีถูกๆ ทั้งในรูปแบบการนำเข้าทั้งคัน หรือชิ้นส่วนที่สำคัญ

แต่หากเป็นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ต้องอัดแรงจูงใจให้ถึงใจ
เพื่อให้ประเทศก้าวไปไกลกว่าคู่แข่ง ที่กำลังจ้องจะแย่งนักลงทุนจากไทย

อย่าไปกังวลเรื่องผลตอบแทนในรูปตัวเงินเท่านั้น
แต่ควรมองถึงผลประโยชน์ด้านอื่นๆ ที่ประเทศไทยจะได้รับมหาศาล

ทั้งในเรื่องเป็นฐานการลงทุน การพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และที่สำคัญคือจะทำให้ปัญหามลพิษลดลง

เช่นเดียวกับกรณี 5 จี ที่ทางกระทรวงดีอี และกสทช. กำลังพยายามช่วยกันปลุกปั้นให้เป็นจริง
เพราะเล็งเห็นถึงความสำคัญ หากเกิดได้เร็วขึ้นเท่าไหร่ จะยิ่งช่วยให้ประเทศไทย เพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันได้อีกมากมายมหาศาล

แม้ว่าจะมีบางมุมมอง เห็นว่าอาจจะใช้เงินลงทุนมาก และทางด้านเอกชนยังเห็นว่า เพิ่งใช้เงินลงุทนจำนวนมากไปเมื่อเร็วๆนี้ จึงยังไม่พร้อม

ดังนั้น หากภาครัฐพยายามปรับมุมมอง คำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก ปรับเกณฑ์การลงทุน
เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก น่าจะช่วยให้ปลดล็อกอุปสรรคการเดินหน้าโครงการที่สำคัญที่มีอยู่ได้

ทั้งสองกรณีทั้ง รถยนต์ไฟฟ้า และ 5จี มีความคล้ายคลึงกันในแง่ของอุปสรรคในการเดินหน้าโครงการ
เกิดจากมองแต่ในแง่ผลตอบแทนตัวเลข และความร่วมมือจากภาคเอกชน

หากลองให้น้ำหนักกับผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าประเทศไทยคงจะไปได้ไกลกว่านี้แน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image