เซียนเหยียบเมฆ “ชวน” นั่งปธ.สภาฯ ปชป.รุก พปชร.ยอมงอไม่ยอมหัก

ประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในวาระโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร หาบุคคลมาทำหน้าที่ ประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ

ที่ประชุมสภาฯ ลงคะแนนลับโหวตเลือก นายหัว “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) หวนคืนเก้าอี้ประธานสภาฯอีกครั้งในรอบ 33 ปี

โดยนายชวน เคยนั่งประธานสภาฯครั้งแรก เมื่อปี 2529 สมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

Advertisement

การชิงเหลี่ยมเดินเกมการเมืองของพรรคปชป. ในการส่งชื่อ “ชวน หลีกภัย” ขึ้นเป็นประธานสภาฯครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเดินเกมแบบเซียนเหยียบเมฆ ตามที่ “ไพศาล พืชมงคล” กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี(พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม) ระบุไว้

เนื่องด้วยแม้พรรคปชป.จะมีส.ส.ในมือ เพียงแค่ 52 เสียง แต่สามารถสร้างแรงกดดัน ชนิดที่พรรคอันดับสอง อย่าง พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ที่กำลังฟอร์มเสียงตั้งครม.

แข่งกับขั้วของพรรคเพื่อไทย(พท.) และพันธมิตรที่ลงสัตยาบันร่วมกันทั้ง 7 พรรค

Advertisement

แบบที่พรรคพปชร.แม้จะเสียงส.ส.เป็นอันดับสอง แต่ก็เป็นรองทุกประตู ต้องยอมรับเงื่อนไขของพรรคปชป.ที่ขึ้นชื่อว่า เขี้ยวลากดินทางการเมืองในทุกดีล

เพราะดีลแรก คือ การเลือกประธานสภาฯ ที่พรรคปชป. มีมติในช่วงค่ำวันที่ 24 พฤษภาคม ส่ง “ชวน หลีกภัย” ขึ้นชิงประธานสภาฯ

แม้พรรคพปชร.ดูจะไม่แฮปปี้ เพราะเตรียมบุคคลของพรรค อย่าง “สุชาติ ตันเจริญ” อดีตรองประธานสภาฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำพรรคพปชร. ขึ้นชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ไว้แล้ว

แต่เมื่อเจอเกมของพรรคปชป. ที่มติพรรคพร้อมหนุน “ชวน” เป็นประธานสภาฯเท่านั้น

ทำให้พรรคพปชร.จึงไม่มีทางเลือกอื่น ไม่กล้ายอมหักกับพรรคปชป. จึงได้แต่เพียงยอมงอ ร่วมโหวต “นายหัวชวน” นั่งเก้าอี้ประธานสภาฯ

ดีกว่าจะเปิดเกมเสี่ยง ส่ง “สุชาติ” ขึ้นไปแข่ง ซ้ำร้ายหากพรรคปชป.ไม่เอาด้วย เก้าอี้ประธานสภาฯ ดันหลุดไปอยู่กับขั้วของพรรคเพื่อไทย(พท.) ที่เสนอ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ขึ้นมาแข่งขันด้วย เกมการเมืองในสภาฯของพรรคพปชร.คงจบเห่ตั้งแต่ยกแรก

เพราะตำแหน่งประธานสภาฯ ที่จะต้องเป็นผู้คุมเกมในสภาฯ หากไม่ได้คนจากฝั่งของรัฐบาลขึ้นมาคุมเกมแล้ว ยิ่งเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำกับฝ่ายค้าน โอกาสที่รัฐบาลจะถูกน็อกจากฝ่ายค้านในเกมของสภาฯ ย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

แม้จะเกมประลองกำลังกันทางการเมืองในการโหวตเลือกประธานสภาฯ ที่ฝั่งของพรรคพปชร. จะคุมเกมได้ตามแผน แถมยังได้ “งูเห่า” เฉพาะกิจอีก 6 เสียงจากขั้วตรงข้ามมาหนุนด้วยแล้ว

ย่อมเป็นที่น่าจับตาว่าในเกมการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจะราบรื่นหรือไม่แม้พรรคพปชร.จะมีแต้มตุ้น คือ 250 ส.ว. พวกกับเสียงของพรรคแนวร่วมที่หนุน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้กลับมานั่งนายกฯอีกสมัยได้ไม่ยากเย็น

แต่ครม.และรัฐบาลจะอยู่หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับเสียงของ ส.ส.ทั้ง 500 คน หากขั้วของพรรคพปชร. รวมเสียงส.ส.ให้มาสนับสนุน ได้ไม่เกิน 253 เสียงแล้ว

โอกาสที่ “ครม.บิ๊กตู่” จะจอดป้ายก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะในส่วนของประธานสภาฯและรองประธานสภาฯอีก 2 คนจะต้องงดออกเสียงการโหวตในสภาฯ จะเหลือเสียงของส.ส.ของฝั่งรัฐบาลเพียง 250 เสียง ซึ่งถือว่าสุ่มเสี่ยงในทางการเมือง

ยิ่งพรรคปชป. ยังเปิดเกมเขี้ยวการเมืองทีละขั้น คือ ขั้นแรกเก้าอี้ประธานสภาฯ ที่ได้ “ชวน หลีกภัย” นั่งเป็นประธานสภาฯได้แล้ว โดยพรรคปชป.ย้ำว่า เป็นคนละเงื่อนไขกับการโหวตเลือกนายกฯ

จากนี้คงต้องจับตา “ดีล” การโหวตเลือกนายกฯ ระหว่างพรรคพปชร. กับ พรรคปชป.อีกครั้งว่าท้ายที่สุด พรรคสีฟ้า จะเปิดเกมการเมืองแบบเซียนเหยียบเมฆอีกหรือไม่

มติ…การเมือง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image