“บิ๊กตู่”มือใหม่ ไม่บันยะบันยัง ส่อตกเหว

“บิ๊กตู่”มือใหม่ ไม่บันยะบันยัง ส่อตกเหว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งอยู่ในตำแหน่งหัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรี กว่า 5 ปี ผ่านการทำงาน และปัญหาต่างๆ มาอย่างโชกโชน จึงไม่ใช่ “มือใหม่”

แต่ 5 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ คุ้นชินกับการควบคุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ และ มีมาตรา 44 ที่เป็นอำนาจพิเศษอยู่ในมือ

ทั้งยังคุ้นกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ที่ คสช.แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งมีเสียงวิจารณ์ว่า เป็นสภาสั่งได้

Advertisement

“วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ก็เคยบรรยายพิเศษเรื่อง“บทบาทของ สนช. กับการพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน” ตอนหนึ่ง ว่า “วันนี้ทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว เหมือนคำโบราณที่ว่า ลงเรือแป๊ะ ต้องตามใจแป๊ะ ไม่เช่นนั้นจะถูกแป๊ะไล่ลงจากเรือ”

แต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ สไลด์มาเป็นนายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้ง ถือได้ว่าเป็น “มือใหม่”

เนื่องจากมีกฎระเบียบและสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม

Advertisement

อำนาจการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ และมาตรา 44 หลุดไปจากมือแล้ว

สภาผู้แทนราษฎรก็ไม่ใช่ สนช.

จะบุ่มบ่ามจะใส่เกียร์5 เดินหน้าเต็มสูบแบบเดิมคงลำบาก และอาจจะเสียหลักตกเหว

ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็รู้ตัวเองดี จึงพยายามปรับตัวใหม่ แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่ยังคุ้นชินกับอดีต

การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ผ่านมา เมื่อถูก ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายตีกินและประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ออกอาการหลุดให้เห็น พร้อมตอบโต้ฝ่ายค้านในทุกประเด็น รวมทั้งเตือนว่า “มีคดีค้างอยู่กว่าพันคดี เตรียมตัวไว้แล้วกัน”

ที่เป็นปัญหาใหญ่คือ การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

จะอ้างว่า ไม่มีเจตนา และขอให้เรื่องจบ ก็คงไม่ใช่เหตุผลที่ดี

ผู้นำที่ดีนั้นต้องเป็นแบบอย่าง เมื่อรู้ว่า ผิดพลาด บกพร่องก็ต้องยอมรับและรีบแก้ไขให้ถูกต้องสมบูรณ์ ไม่ควรโยกโย้หรือบ่ายเบี่ยง หรือโยนให้เป็นเรื่องของการเมือง

เพราะทั้งหมดทั้งปวงที่่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของผู้นำ ที่เกิดจากกระทำของตัวเองล้วนๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image