ผู้เขียน | สุภัทรา บุณยพรหม |
---|
ในที่สุด ผลสอบเรื่อง “ทุจริตเงินคนจน” ก็ออกมา หลังจากรอกันยาวนานตั้งแต่เดือน “กุมภาพันธ์”
ภายหลังจากที่ “น้องแบม-น.ส.ปณิดา ยศปัญญา” นิสิตม.มหาสารคาม ออกมาเปิดโปงการทุจริตของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น จนนำมาสู่การตรวจสอบศูนย์คนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ และพบการทุจริตลุกลามบานปลายขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ
ข่าวนี้ก็อยู่ในความสนใจของคนไทยทั้งประเทศ และจับตาอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
เป็นการจับตาที่อยากให้สาวไปถึง “ผู้กระทำผิด” ให้ได้ ด้วยความรู้สึกสะเทือนใจที่ว่า…
“เหตุใดถึงทำกับคนยากไร้ได้ลงคอ”
แล้ว “การรอคอย” ให้ “คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง” นานถึง 3 เดือน ก็สิ้นสุดลง…
นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ออกมานั่งหัวโต๊ะเปิดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนทั้งสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์หลายสิบสื่อแบบม้วนเดียวจบว่า
ได้พิจารณาโทษ “ไล่ออกจากราชการ” กับ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น และ หัวหน้าฝ่ายสวัสดิการสังคม ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น
ซึ่งทั้ง 2 มีพฤติกรรมทุจริต คือ ปลอมแปลงเอกสาร และจ่ายเงินให้กลุ่มเป้าหมายไม่ครบ
โดยก่อนหน้านี้ทั้ง 2 ได้ถูกพักราชการไปตั้งแต่เดือนเมษายน ในระหว่างพักราชการ “ไม่ได้รับเงินเดือนและสวัสดิการใดๆ”
และเมื่อ “ถูกโทษไล่ออกจากราชการ” ทั้ง 2 ก็จะไม่ได้รับอะไรเลย!!
ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน สวัสดิการ หรือบำเหน็จบำนาญ!!!
นับเป็นการลงโทษทางวินัย “สถานหนักที่สุด” ที่ใช้ลงโทษแก่ “ข้าราชการ”
ที่ถ้าหากไม่ประพฤติทุจริต เมื่อเกษียณอายุออกไป ก็จะได้รับผลประโยชน์ตามที่ได้ทำงานรับใช้แผ่นดินโดยสุจริตมาตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบครั้งนี้ ไม่ได้สาวไปถึง “เส้นทางเงินที่ทุจริต” ว่า สุดท้ายไปไหน หรือ ส่งเงินทอนให้ใคร
ผลสอบยังไม่ชี้ชัด!!
ยังต้องรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง “ชุดใหญ่” ที่สอบระดับ “ผู้บริหารพม.” 2 คน
ทั้ง นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดพม. และ นายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม.
อย่างไรก็ตาม การทุจริตที่ขยายผลไปทั่วประเทศ ซึ่งทางพส.ดำเนินการตรวจสอบ 59 แห่งทั่วประเทศ ตรวจพบทุจริต 24 แห่ง และไม่พบ 9 แห่ง ขณะที่ทาง ป.ป.ท.ตรวจพบการทุจริต ทั้งศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง นิคมสร้างตนเอง และศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง รวมกว่า 60 แห่งทั่วประเทศ
ยังไม่มีผลตรวจสอบออกมาอย่างแน่ชัด
มีเพียง “หนึ่งเดียว” คือ ศูนย์ฯ ขอนแก่น
และล็อต 2 ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจ.เชียงใหม่ จะทราบผลสอบภายในเดือนพฤษภาคมนี้
เรียกว่า เป็น “มหากาพย์” ที่ต้องดูกันยาวๆ
แต่ แต่ แต่…มหากาพย์ของกระทรวงนี้ ดูท่าจะไม่ได้มีแค่ทุจริตเงินคนจนเสียแล้ว
เมื่อ ป.ป.ท. ไปตรวจพบการจัดซื้อ “ผ้าห่มกันหนาว” ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สิงห์บุรี ที่จัดซื้อมาใน “ราคาสูง” เกิน “ราคากลาง”
เรื่องนี้ อธิบดีพส. กล่าวว่า ได้ต่อสายโดยตรงไปยังผอ.ศูนย์ฯสิงห์บุรี และได้รับการชี้แจงว่าเป็นการเร่งรัดการจัดซื้อด้วย “ความจำเป็น” ซึ่งก็ได้ให้รายงานถึงเหตุผลที่ต้องจัดซื้อราคาสูงกว่าราคากลาง และทำไมต้องจัดซื้อเร่งด่วน เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้น สู่การตั้งคณะกรรมการมาพิจารณาต่อไป
ซึ่งผลจะเป็นอย่างไร เมื่อเรื่องปะทุในแบบ “โป๊ะแตก” ออกมาเยี่ยงนี้
ผ้าห่มจะกันหนาว หรือจะเป็น ผีผ้าห่ม
ก็ต้องติดตามกันยาวปายๆ