ผู้เขียน | สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา |
---|
เห็นบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.บุรีรัมย์ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เมื่อวันที่ 7-8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ราวกับช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง
เป็นการสะท้อนภาพทางการเมืองในอนาคต ได้ค่อนข้างชัดเจนในระดับหนึ่ง
ไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ตามที่คาดเดากันไว้หรือไม่ก็ตาม
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ดูเหมือนเป็นการตอกย้ำว่า พันธมิตรของฝ่ายสนับสนุนให้มีนายกรัฐมนตรีคนต่อไปชื่อ “บิ๊กตู่”
น่าจะมีชื่อ กลุ่มภูมิใจไทย ติดโผอยู่ในอันดับต้นๆ
ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก หากพรรคภูมิใจไทยหรือกลุ่มเนวิน จะให้การสนับสนุนคสช.
เพราะหากย้อนไปดูก่อนหน้าการยึดอำนาจ ความสัมพันธ์ระหว่างทหารในคณะคสช. โดยเฉพาะขั้วพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ นั้น มีความแนบแน่นกับบ้านนี้ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
แต่มาระยะหลัง เมื่อปี่กลองทางการเมืองเพลงเลือกตั้งเริ่มบรรเลงขึ้น ภาพแห่งพันธมิตรทางการเมืองจึงยิ่งชัดขึ้น
ที่สำคัญวิธีการผูกมิตรของรัฐบาลนี้ ก็ไม่แตกต่างจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
เพราะมีการดึงงบลงพื้นที่ จึงอาจถูกมองว่าเป็นการอัดงบต่างตอบแทนและเพื่อเป็นการหาเสียงหรือไม่
งานนี้ ตอนแรกฟังดูเหมือน”บิ๊กตู่”ประกาศว่า จะสนับสนุนงบประมาณขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 หรือ นครชัยบุรินทร์ ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ กว่า 20,000 ล้านบาท
แต่ต่อมานายกฯออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ให้บุรีรัมย์ 20,000 บาท
งานนี้ไม่ว่าจะให้การสนับสนุนในพื้นที่ในครั้งนี้ จะเป็นเงินเท่าไหร่ก็ตาม
แต่ภาพนายกรัฐมนตรีแวะทักทายชาวบ้านที่มารอต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
ลีลาการร่วมกิจกรรมต่างๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ไม่บอกก็รู้ว่างานนี้จัดเต็ม จากใจถึงใจกันแค่ไหน
แถมยังสะท้อนให้เห็นว่า ณ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักการเมืองอย่างเต็มตัวแล้ว
และไม่ใช่นักการเมืองมือใหม่หัดหาเสียง
ไม่ใช่มีแต่การดูด เหมือนที่ใครค่อนแคะว่ารัฐบาลใช้พลังดูดส.ส.เพื่อให้การสนับสนุนบิ๊กตู่เป็นนายกฯด้วยวิธีกดดันในรูปแบบต่างๆเท่านั้น
แต่เป็นนักการเมืองที่มีลีลา ใช้พลังทั้งดึงและดูดกับกลุ่มบุรีรัมย์
เป็นแรงดึงดูดระหว่างรัฐบาลคสช.กับพรรคภูมิใจไทย ที่ต่างคนต่างดึงและดูด ราวกับแม่เหล็กที่ทรงพลัง
ดูดปุ๊บติดปั๊บ ติดสนิทกันอย่างแนบแน่น ราวกับเป็นเนื้อเดียวกัน
ทำให้เห็นอนาคตทางการเมืองชัดขึ้นมาอีกว่า
หากเป็นไปเหมือนที่ใครหลายคนคาดว่า นายกฯตู่จะคัมแบ็กมาอีกรอบ
คงไม่ต้องลุ้นก็ได้ว่าใครจะมาร่วมรัฐบาลกันบ้าง
เอาเป็นว่าจะแบ่งกระทรวงไหนให้คุม น่าจะลุ้นมันกว่าเยอะ