ผู้เขียน | สัญญา รัตนสร้อย |
---|
นับเป็นสัญญาณบวก ผ่อนคลายอาการวิตกกังวล “ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกลาญ”
เมื่อคณะผู้แทนนำโดยหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน บรรลุการเจรจากับคณะของสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯปะทะจีนกำลังถูกปลดชนวน แทนที่จะตั้งกำแพงภาษีเข้าห้ำหั่นกัน
บรรยากาศการค้าระหว่างประเทศเริ่มสดใสขึ้น
อานิสงส์ตกมาถึงประเทศไทยที่ยังต้องพึ่งพาภาคส่งออก และกำลังดีวันดีคืน เส้นกราฟไตรมาสแรกปีนี้พุ่งทะยานสูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส
เช่นเดียวกับตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ผ่านคำแถลงผลงานรัฐบาลบ่งชี้กระเตื้องขึ้นต่อเนื่อง
“อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” รมว.คลัง โชว์ตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคที่น่าพอใจในปัจจุบัน จะส่งผ่านเป็นรายได้ต่อประเทศและประชาชน
รัฐมนตรีอภิศักดิ์ตั้งเป้านำคนไทยพ้นความยากจนให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปีนี้
มองจากมุมสูงตัวเลขมหภาคไปได้สวย
แต่เม็ดเงินจะไหลลงสู่ฐานราก?
โลกแห่งความจริง เราร่วมฝันไปกับท่านรัฐมนตรีได้หรือเปล่า?
มีชุดข้อมูลของแบงก์ชาติ แจกแจงเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ ล่าสุด ณ วันที่ 10 พฤษภาคมนี่เอง
สรุปคร่าวๆ จากบัญชีเงินฝากในระบบทุกประเภท 95,167,825 บัญชี เงินฝากรวม 12,416,992 ล้านบาท
มีบัญชีเงินฝากตั้งแต่ 10 – 500 ล้านบาทขึ้นไป 119,315 บัญชี หรือเพียงร้อยละ 0.12 ของบัญชีทั้งระบบ แต่มีเงินฝากถึง 6,156,228 ล้านบาท หรือร้อยละ 49.5
ขณะที่ผู้ฝากเงินระดับหลักร้อยหลักพันบาทไปจนถึงไม่เกิน 10 ล้านบาท กินสัดส่วน 95,048,5810 บัญชี หรือร้อยละ 99.87 วงเงิน 6,260,765 ล้านบาท หรือร้อยละ 50.42
มีทฤษฎีที่เรียกว่า “1 เปอร์เซ็นต์”ของ”วิลเฟรโด พาเรโต” นักคณิตศาสตร์และนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง ศึกษาความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ
เขาพบว่ากลุ่มคนเพียงน้อยนิดในสังคม เกาะกุมความมั่งคั่งส่วนใหญ่เอาไว้
จนถึงปัจจุบันทฤษฎีนี้ยังไม่ถูกหักล้าง
หากนำตัวอย่างบัญชีเงินฝากทั้งระบบมาเทียบเคียง บ้านเราดูเหมือนอาการจะหนักกว่า
เพราะความมั่งคั่งถูกครอบครองด้วยกลุ่มคนเพียง 0.12 เปอร์เซ็นต์ ห่างไกลไม่ติดฝุ่น 1 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ
ปักธงพาคนไทยก้าวข้ามความยากจน หรือหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลางแบบที่นายกฯประยุทธ์ประกาศเป้าหมายไว้
กว่าจะไปถึงจุดนั้นควรกลับมาถาม ทำอย่างไรเราจะถอดสมการ “กับดับกระจายรายได้” กันก่อนดีมั๊ย