ผู้เขียน | สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา |
---|
ไม่ต้องบอกว่าลีลาท่าทาง ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในทริปครม.สัญจรที่นครสวรรค์ และพิจิตร เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาสะท้อนภาพของนักการเมืองได้เด็ดสะระตี่แค่ไหน
งานนี้นายกฯออดอ้อนบรรดาชาวบ้านที่ยกขบวนกันมาต้อนรับกันอย่างเนืองแน่นแบบหวานแหววแต๋วจ๋า
ยังไม่นับรวมกับการผูกสัมพันธ์กับบรรดานักการเมืองในพื้นที่มาตั้งแถวรับกันอย่างเอิกเกริก
นายกฯถึงกับออกปากเรียกพี่ ราวกับว่าเป็นนักการเมืองรุ่นน้องฝากเนื้อฝากตัวรุ่นพี่ที่มีชั่วโมงบินมากกว่า
ไม่รู้ว่าบรรดานักการเมืองที่ไปต้อนรับ จะเคลิ้มจนถึงกับลืมอดีตอันแสนขมขื่นที่เคยมีเจ้าหน้าที่บุกค้นบ้านนักการเมืองบางรายตั้งแต่เช้ามืดในอดีตโดยสิ้นเชิงหรือเปล่า
นายกฯแสดงบทบาทนักการเมืองจนถึงขนาดนี้แล้ว นับจากนี้ก็ไม่จำเป็นต้องรออะไรแล้ว
รีบประกาศปลดล็อกให้พรรคการเมืองได้ดำเนินกิจกรรมได้โดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบว่า นับจากนี้ไปจะมีตัวเลือกเป็นใครบ้างในการเลือกตั้งครั้งต่อไปซะทีเถอะ
ไม่ใช่ยังใช้วิธี “ตีกิน” ออกอ้อนออเซาะชาวบ้านหาเสียงได้อยู่ฝ่ายเดียว ในขณะที่นักการเมืองอื่นๆ ยังคงตัวลีบ โดนบีบจากกฎระเบียบต่างๆ ขยับแทบไม่ได้
หากขืนยังล่าช้าต่อไป ไม่ยอมปลดล็อก หรือประกาศวันเลือกตั้งให้ชัดเจน
ระวังกระแสจะเริ่ม”ตีกลับ” เพราะจะกลายเป็นว่างานนี้รัฐบาลเป็นทั้งผู้ลงแข่งขันด้วย แต่อีกบทบาทก็ยังเป็นกรรมการในการแข่งขันด้วย เอาเปรียบคนอื่นต่อไป
ถ้าแบบนี้ก็”ไม่แฟร์”
นายกฯควรถือโอกาสในช่วงนี้ อาจจะก่อนการเดินทางไปเยือนยุโรปประมาณวันที่ 20-25 มิถุนายนนี้
ประกาศปลดล็อกพรรคการเมืองและประกาศวันเลือกตั้งให้ชัดเจนไปเลย
จะได้มีอะไรไปคุยกับทางอียูว่ารัฐบาลนี้สนับสนุนประชาธิปไตยอย่างจริงจัง
อาจจะเป็นผลดีกับกรณีการนำตัวอดีตพระพรหมเมธีที่หนีไปเยอรมนี และผบ.ตร.กำลังพยายามเอาตัวกลับมาดำเนินคดีที่เมืองไทยก็ได้
และที่สำคัญที่สุดก็คือ การประกาศปลดล็อกและวันเลือกตั้งให้ชัดเจนจะช่วยส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง
ไม่ใช่แค่ลมปากรายวันที่ทางรัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐบางหน่วย พยายามโปรย “ยาหอม” ว่าขณะนี้เศรษฐกิจกำลังดี
เพราะในความเป็นจริงแล้วเศรษฐกิจขณะนี้ย่ำแย่สาละวันเตี้ยลงไปทุกวัน
สะท้อนภาพได้จากการแข่งขันบอลโลก ปกติภาคธุรกิจจะต้องคึกคัก แทบทุกครั้งที่มีการแข่งขันที่สำคัญขนาดนี้
แต่ตอนนี้อย่างที่เห็น ภาคธุรกิจคึกคักกระจุกตัวเพียงไม่กี่รายที่ได้อานิสงส์จากการถ่ายทอดการแข่งขันครั้งนี้ แต่ที่เหลือนิ่งสนิท
นอกจากนี้ยังมีภาพสะท้อนชัดๆถึงสภาวะเศรษฐกิจล่าสุด
นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง อย่าง “ประณิธาน พรประภา” ลูกชายคุณพรเทพ พรประภา นักธุรกิจใหญ่จากกลุ่มสยามกลการ
ปัจจุบันทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องจักรกลหนัก บอกว่าโครงการก่อสร้างของภาครัฐที่บอกว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังไม่ออกมา
แม้ว่าทิศทางรัฐบาลตอนนี้ถูกต้องแล้วในการสนับสนุนการลงทุนทั้งเรื่องอีอีซีและเมกะโปรเจคต์ แต่ในความเป็นจริงขณะนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง
ดังนั้นสิ่งสำคัญจะต้องมีการเลือกตั้ง เพราะจะช่วยให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
เอาซะทีเถอะครับ