⦁…ช็อก! ไปทั้งประเทศ เมื่อ “โจรปล้นร้านทองลพบุรี” ที่กราดยิงผู้คนทิ้ง ไม่เว้นแม้แต่เด็ก 2 ขวบ เป็น “ผู้อำนวยการโรงเรียน” ที่ชีวิตน่าจะยังรุ่งเรืองได้อีกนาน เพราะอายุแค่ 38 ปี เลือดเย็นขนาด “ก่อเหตุอำมหิตแล้ว ยังใช้ชีวิตแบบเสพสุขสบายๆ” ชนิดที่ไม่มีอะไรทำให้คนแวดล้อมรู้สึกผิดปกติสักนิดเดียว ไม่ว่าจะคิดอย่างไร ก็นึกไม่ออกว่า “ความโหดอำมหิตระดับนี้” จะไปอยู่ในจิตใจของคนเป็นครูที่คลุกคลีกับความไร้เดียงสาของเด็กๆ ได้อย่างไร
⦁…เมื่อเอาเป็นเอาตายกับประเด็น “เสียบบัตรแทน” ในการลงมติ “พ.ร.บ.งบประมาณฯ” โดยมี นาที รัชกิจประการ และ ฉลอง เทอดวีระพงศ์ เป็นจำเลย ย่อมไม่ใช่เรื่องผ่านเลยได้ง่ายๆ ใครที่รู้จัก นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ย่อมรู้ว่า “ฟัดกันจนกว่าจะแตกหักกันไปข้าง” คือสไตล์ “อดีต ส.ส.พัทลุง ประชาธิปัตย์” ผู้นี้ และเมื่องานเป็น “โอกาส” ถล่มผู้มาชิงพื้นที่จาก “ภูมิใจไทย” ย่อมเพิ่มสภาวะ “กัดไม่ปล่อย” เข้าไปอีก
⦁…แม้ วิษณุ เครืองาม จะให้กำลังใจ “นายกรัฐมนตรี” ว่า “ไม่น่าจะมีปัญหา” แต่หากย้อนกลับไป การเสียบบัตรแทนครั้ง “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ชี้ขาดว่า “เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ” เมื่อครั้งนี้ไม่ต่างกัน น่าสนใจยิ่งว่า หาก “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะออกลูกแบบที่ “รองวิษณุ” ชี้ทาง จะอธิบายด้วยเหตุผลแบบไหน ซึ่งน่าจะอิหลักอิเหลื่อยิ่ง เว้นเสียแต่ว่า ชวน หลีกภัย ยอมรับหน้าเสียเอง ไม่ส่งให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” แต่หากเป็นเช่นนั้น น่าคิดอยู่เหมือนกันว่า “นิพิฏฐ์” จะรู้สึกอย่างไร
⦁…นึกถึงคำพังเพยโบราณ “ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็มาเกิด” ขณะ เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ยังไล่บี้เรื่อง “ถวายสัตย์ขัดรัฐธรรมนูญ” ไม่เลิก เจอปัญหา “พ.ร.บ.งบประมาณฯ ผ่านสภาโดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ” ซ้ำเข้าไปอีก น่าเห็นใจ “สมอง 84,000 เซลล์” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะหาทางออกเตรียมไว้ให้ตัวเองอย่างไร หากเรื่องราวเหล่านี้กลับมาเป็นคดีในอนาคต
⦁…เป็นสีสันเชิงพฤติกรรม ที่ส่งผลให้ประชาชนเสียศรัทธาต่อ “นักการเมืองจากการเลือกตั้งของประชาชน” ได้ไม่หยุด แต่หากหวังว่า ปารีณา ไกรคุปต์ จะทำให้ “คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.” เป็นง่อย ไม่สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบได้ เพราะ “ความวุ่นวายภายใน” น่าจะต้องผิดหวัง เพราะที่สุดแล้ว “ประชาชน” ย่อมคิดออกว่า “ปัญหาอยู่ที่ตรงไหน” และเห็นได้ว่า “ใครทำให้เสื่อมเสีย”
⦁…แม้ไม่มีท่าทีว่าปวดหัวกับ “ฝุ่นพิษ” ที่กระทบต่อชีวิตของผู้คนที่หวาดกังวลกับปัญหาสุขภาพ ด้วยปล่อยให้เป็นปฏิบัติการของ “กองทัพ” เข้ามาจัดการเยียวยา แต่ “ไวรัสมฤตยู” ที่แพร่ในหมู่
“นักท่องเที่ยว” ย่อมกระทบถึง “การท่องเที่ยว” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้งานนี้น่าจะถึงคิวของ อนุทิน ชาญวีรกูล จะต้องตอบคำถามว่าจะหาทางแก้อย่างไรไม่ให้กระทบต่อ “รายได้ของประเทศ” ซึ่งอยู่ในภาวะ “ไปไม่เป็น” อยู่เวลานี้
⦁…มองผ่านคำตัดสิน “ศาลรัฐธรรมนูญ” ต่อกรณี “ยกคำร้องที่ให้ยุบพรรคอนาคตใหม่” หา “ความเชื่อมั่น” ซึ่งน่าจะเกิดขึ้น กลับกลายเป็นว่า “ความเชื่อเรื่องพรรคอนาคตใหม่อยู่รอด” กลับแทบไม่มี
ให้เห็น ไม่ใช่เพราะเห็นว่าพรรคนี้ “ทำผิด” แต่คนส่วนใหญ่เชื่อว่า “ผู้มีอำนาจ” ไม่มีทางปล่อยไว้ “อยู่ได้หรือไม่ ยุบพรรคหรือเปล่า” คำตอบกลับมาจาก “ความเชื่อในคำสั่งของผู้มีอำนาจ”
ชโลทร