⦁….แม้ “กู้ 1.9 ล้านล้านบาท” จะเป็น “อภิปรายกันเข้มข้น” ฝ่ายค้านหยิบข้อมูลมาชี้ให้เห็นความน่าเป็นห่วงได้อย่างมีน้ำหนัก แต่ที่สุดแล้ว “ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับการกู้เงิน” ประเด็นที่ข้องใจพุ่งไปที่ “ไม่เชื่อถือรัฐบาล” ว่าจะใช้เงินมหาศาลนี้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นธรรม โดยมีข้อมูลที่ตอกย้ำ “เร่งอุ้มทุนใหญ่ ไม่ใส่ใจความเดือดร้อนชาวบ้าน” เอามาแสดงให้เห็นกันจะจะ ชนิดที่หากเป็น “รัฐบาลปกติ” เก้าอี้ผู้บริหารประเทศแต่ละคนน่าจะร้อนเป็นไฟ แต่สำหรับ “รัฐบาลนี้” ไม่สะดุ้งอะไร เพราะ “เครื่องมือยึดกุมอำนาจ” ไม่เกี่ยวกับประชาชนสักเท่าไร
⦁….การที่ฝ่ายค้านออกมาแฉ “อุ้มนายทุน ทอดทิ้งคนจน” มองในทางกลับกัน อาจจะเป็น “ผลดีต่อคนในรัฐบาลเสียด้วยซ้ำ” จริงอยู่ประชาชนอาจจะชอบอกชอบใจ “ฝ่ายค้าน” แต่การเมืองที่นับวันยิ่งชัดว่า “ความรู้สึกประชาชนจะเป็นอย่างไร” ไม่เกี่ยวเลย เนื่องจาก “การรักษาอำนาจ” ที่ได้ผลกว่าคือ “ทำให้ทุนใหญ่พึงพอใจ” และ “ข้าราชการ” โดยเฉพาะ “กองทัพ” อยู่ดีมีสุขไว้ ด้วยนับวันจะยิ่งพิสูจน์ว่าวิธีนี้คือ “การรักษาเสถียรภาพให้มั่นคง” อย่างได้ผลที่สุด
⦁….การได้รับการสนับสนุนจาก “ทุนใหญ่” ย่อมหมายถึง “ศักยภาพในการดูแล ส.ส.” ให้อยู่ดีกินดี มี “เครื่องไม้เครื่องมือดูแลพื้นที่” ส่วน “ฝ่ายค้าน” ที่ “ผู้นำ” มุุ่งมั่นโจมตี “นายทุน” เปิดโปง “กองทัพ” นั้น “ส.ส.ลูกพรรค” ได้แค่มองตาปริบๆ กับ “การอยู่ดีมีสุขของเพื่อน ส.ส.ที่ขายพรรค ขายอุดมการณ์” ต้องอยู่ในฐานะ “พึ่งพาไม่ได้” ในภาวะ “ความเดือดร้อนเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า” คำชี้แจงว่า “การช่วยเหลือประชาชนเป็นงานของรัฐบาล ไม่ใช่หน้าที่ ส.ส.นั้น” ยากที่ “ชาวบ้าน” ฟังแล้วจะเข้าใจ และทำใจได้
⦁….ไม่แปลกที่ “เลือกตั้งซ่อม” ทุุกครั้ง “พรรครัฐบาล” จะชนะกระจุย และ “เลือกซ่อมที่ลำปาง” เที่ยวนี้แนวโน้มไม่น่าจะต่างไปจากนั้น อย่าว่าแต่ “ประชาชน” เลย ที่ “เบี้ยใกล้มือ” สำคัญกว่าสิ่งอื่น กระทั่ง “ผู้ที่คิดจะส่งสมัคร” ยังหาข้ออ้างมากมาย เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองเข้าถึงบางสิ่งบางอย่าง เพราะ “ศรัทธาประชาชน” อาจจะได้รับ “เสียงปรบมือ” ชื่นชม แต่ “การมีทุนรอนดูแลพื้นที่” คือ “คะแนนเสียง” ลองนึกดูว่า “นักการเมือง” จะ “เลือกเสียงปรบมือ” หรือ “เลือกชัยชนะ”
⦁….กระทั่งการเมืองภายในพรรค ก็ยังเล่นกันด้วย “เทคนิค” นี้ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ใน “พลังประชารัฐ” แทบเชื่อขนมกินได้ว่า เครือข่าย “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ต้องถอยออกจาก “ศูนย์บัญชาการอำนาจ” เพราะ “เจ้าของพรรคตัวจริง” แสดงบทบาทแล้ว แต่เพียงไม่กี่วันดูท่า “เกมจะพลิก” เมื่อ “ทุน” ส่งสัญญาณให้รู้ว่า “ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของพรรคที่แท้กว่า”
⦁….ดูท่าจะไปไกล สำหรับ “เพื่อไทย” ถึงวันนี้ชัดเจนแล้วว่า “หัวแตก ต้องแยกกันเดิน” โดย “มือแข็งๆ ของพรรค” แยกตัวออกมาก่อตั้งกลุ่ม เพื่อเตรียม “สร้างพรรคใหม่” และคล้ายกับ “แยกกันเดิน ร่วมกันตี” อย่างที่เคยเป็น “พรรคไทยรักษาชาติ” แต่ใครที่ได้คลุกวงในย่อมรู้ว่า ความรู้สึกแบบ “ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ” นั้น ภายในแต่ละกลุ่มของ “เพื่อไทย” เกิดขึ้นมาพักใหญ่แล้ว
⦁….ส่องการเมืองโลกกันสักนิด เพื่อให้รับรู้ว่าอาการของ โดนัลด์ ทรัมป์ นั้น นับวันจะถูกกดดันให้ “สติแตกหนักขึ้น” การรับมือโรคร้าย “โควิด-19” ที่ชัดเจนว่า “ล้มเหลว” ระดับ “เสียเกียรติภูมิมหาอำนาจ” ยังถูกซ้ำด้วย “เกมฮ่องกง” ที่ชัดเจนว่า “จีนไม่แคร์” ล่าสุดเกิดจลาจลไปทั่ว อันเนื่องมาจาก “คนดำ จอร์จ ฟลอยด์” ถูก “ตำรวจผิวขาว” จับกุมด้วยวิธีรุนแรงจนเสียชีวิต ทำให้เกิด “ชุมนุมต้านการเหยียดผิว” ไปทั่ว และดูท่าเที่ยวนี้จะไม่จบง่ายๆ เพราะมี “เกมการเมือง” ด้วยถึงวาระ เลือกตั้งประธานาธิบดีเข้ามาแทรก