| ผู้เขียน | ชโลทร |
|---|
เรียงคนมาเป็นข่าว / ภาพข่าวสังคม 8 ตุลาคม 2567
⦁…เพราะ “เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519” เป็นบาดแผลใหญ่ของแผ่นดิน เป็นธรรมดาอยู่เองที่เวียนมาครบปี “การรำลึกย้อน และการมองประเมินความเปลี่ยนแปลงของผู้คน” จะต้องเกิดขึ้น “ใครสะสมอะไรไว้บ้าง เหลืออะไรอยู่” ย่อมมองกันและกันด้วยสายตาที่แตกต่าง แต่นั่นดูจะเฉพาะ “ผู้ร่วมยุคสมัยเท่านั้น” สำหรับคนรุ่นใหม่อาจจะเรียนและรู้สึกกับประวัติศาสตร์มาบ้าง ย่อมเห็นว่า “ใครเป็นอย่างไร” ด้วยอาศัย “สายตาในความคาดหวังเป็นตัวตัดสิน” ในความปรารถนาอยากเห็นบ้านเมืองดีขึ้น ประเทศมีโอกาสพัฒนา ผู้คนสู่สุขสบายอย่างไม่เหลื่อมล้ำสุดกู่ “หวังได้จากใคร”
⦁…ผู้คนใน “ประวัติศาสตร์ 6 ตุลาฯ” หลายคนเป็นตัวแสดงโดดเด่นในปัจจุบัน ในแผ่นดินที่คนส่วนใหญ่ “พึ่งพาตัวเองไม่ได้” เพราะ “โครงสร้างอำนาจ” ปิดกันโอกาส ขณะเปิดทางให้บางพวกบางกลุ่ม “ได้เปรียบเต็มที่ในทุกมิติ” ความคาดหวังย่อมเกิดขึ้นในทุกหัวระแหง ว่า “อุดมการณ์เก่าๆ ผลักดันให้ต่อสู้เพื่อสิทธิเท่าเทียมจะยังหลงเหลือในหัวใจ” แต่ก็นั่นแหละ ชั่วโมงนี้คงเห็นได้กันตำตา ว่าใน “วาสนาบุญหนักศักดิ์ใหญ่” นั้น เหลือ “เงาอุดมการณ์” ให้ยังพอหว้งได้สักกี่คน
⦁…ปฏิเสธไม่ได้ว่า “โลกเข้าสู่ภาวะสงครามที่มีแนวโน้มจะรุนแรงจะขยายวงกว้างขึ้น” จาก “อิสราเอล” กับ “ประเทศในตะวันออกกลาง” รับรู้กันอยู่ว่าเบื้องหลังมี “มหาอำนาจ” ถือหาง ด้วยเหตุสารพัด แต่ที่เป็นหลักใหญ่คือ “การจัดการผลประโยชน์โลกที่ไม่ลงตัว” เกิดความเสื่อมทรุดภายในประเทศ และเสี่ยงต่อความสูญเสีย “สถานะมหาอำนาจ” การประกาศศักดาถึง “อาวุธที่ทำลายล้างประสิทธิภาพสูงยิ่ง” จึงเกิดขึ้น แสดงให้เห็นและข่มขู่ให้ “ยอมจำนน” โดยไม่ใส่ใจ “เสียงเรียกร้องให้ดูแลโลกที่วิกฤตในทุกมิติ” จากการมุ่งสะสม “ความร่ำรวยและอำนาจ” จนแทบจะหมดสภาพของ “บรรยากาศที่มนุษย์จะมีชีวิตอยู่ได้” แล้ว
⦁…เรื่องราว “ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา” คร่าชีวิตเด็กน้อย “นักเรียนอนุบาลพร้อมครูกว่า 20 ศพ” เป็น “โศกนาฏกรรมที่ไม่สมควรเกิด” เพราะเหตุที่แท้คือ “ความหละหลวมในการควบคุมคุณภาพความปลอดภัยรถยนต์โดยสารสาธารณะ” ที่หน่วยงาน และองค์กรทั้งหลายใส่ใจ “เยียวยาผู้เสียหาย สูญเสีย” นั้นถูกต้อง แต่จะให้ดีกว่าคือ “ล้างบางการหากินแบบไร้ความรับผิดชอบต่อสังคมให้สิ้นซาก” ทั้ง “ผู้ประกอบการเห็นแก่ได้” และ “ข้าราชการที่อาศัยอำนาจแสวงประโยชน์” หาก “นายกฯแพทองธาร ชินวัตร” จะอาศัยสถานการณ์นี้สร้างผลงานเพื่อประโยชน์ที่ “ถูกต้องของประเทศ” จะได้รับเสียงสรรเสริญแน่นอน
⦁…นี่ก็อีกเรื่อง ชะตากรรม “คนเหนือ” ที่ต้องเผชิญน้ำหลาก พัด “โคลนจากภูเขา” ถมเมืองท่วมบ้าน สร้างความเดือดร้อนสาหัสให้ผู้คน ขณะก่อนหน้านั้น “เมืองถูกคลุมด้วยฝุ่นพิษ PM2.5” ยาวนาน เช่นกัน “การช่วยเหลือเยียวยา” เป็นหน้าที่ “กลไกราชการ” ต้องทำ “รัฐบาล” ต้องกระตุ้นให้เต็มที่ แต่เรื่องซึ่ง “นายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทุกคน” ต้องสำนึกถึง คืนธรรมชาติที่งดงามอันเป็น “เสน่ห์เมืองเหนือ” ที่เป็น “มนต์สะกดคนทั้งโลกให้หลงรัก” ใครทำลายเพราะเห็นการสร้างความร่ำรวยไม่รู้พอ “ไร้จิตใจคำนึงถึงความงดงามของธรรมชาติที่เป็นสมบัติร่วมของส่วนรวม” ในฐานะ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย” ที่เอาแต่พูดถึง “ความสำคัญของปัญหาปากท้องสำคัญกว่าวิกฤตโครงสร้างอำนาจ” อย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล ควรจะมีคำตอบอยู่ในหัวบ้างว่า “ควรจะทำให้เกิดขึ้นได้อย่างไร”
⦁…เมื่อเกมบังคับให้ต้องไปยืนฟาก “ลุงป้อม” ที่ถึงวันนี้เหลือทางเล่นแค่ “นิติสงครามประสาท” มุ่งทำลายสอย “อุ๊งอิ๊ง” ลงจากเก้าอี้นายกฯ ทั้งที่เห็นอยู่ชัดๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไร ไม่มีทางที่ ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะสมอยากให้ได้ ได้ยินมาว่า สันติ พร้อมพัฒน์ ที่เหมือนจะบ่มใจตัวเองไว้ว่า “เล่นการเมืองต้องหาทางเป็นรัฐมนตรีเท่านั้น” มีการต่อสายถี่ยิบเพื่อ “ขอพลังดลบันดาล” แบบพร้อมรับทุกเงื่อนไข แต่ดูจะธรรมดาที่ทุกชีวิตต้องเป็นตามกรรมเก่า เรื่องราว “นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง” ที่ “ปลอมแปลงเอกสารเพื่อให้คนอื่นเข้าสอบแทน” จนถูกประกาศให้ “พ้นจากสถานภาพนักศึกษา” เป็นพฤติกรรมถูกร้องเรียนว่าเสี่ยงต่อ “การผิดจริยธรรม” ซึ่งในยุคสมัยนี้เป็น “แดนประหารของนักการเมือง” ไม่ใช่แค่เฉพาะคนคนนั้น แต่ครอบคลุมอย่างง่ายดายถึง “ผู้มีอำนาจแต่งตั้ง” ด้วยอย่างที่เห็นๆ กันอยู่ หาก เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จะยอมให้ “หลานสาว” ต้องเสี่ยงแบบนั้น ก็พิลึก
⦁…ความสิ้นหวังของประเทศอยู่ที่เป็น ประชาธิปไตยอย่างที่พัฒนาแล้วเขาเป็นไม่ได้ เหตุผล “รัฐประหาร” ไปยัด “ขบวนการสืบทอดอำนาจนิยม” ไว้ใน “รัฐธรรมนูญ” ช่วงหาเสียง “พรรคการเมือง” เรียกคะแนนด้วยสัญญา “คืนอำนาจให้ประชาชน” ด้วยการ “แก้ไขรัฐธรรมนูญ” อย่างน้อยถอด “กลไกที่อยู่เหนืออำนาจประชาชน” ออก “ก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า” “ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่” พรรคการเมืองเหมือนจะพร้อมใจให้เป็นเช่นนี้ แต่ชั่วโมงนี้ ดูท่าจะ “พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา” พรรคที่การเมืองที่ประสบความสำเร็จในการ “ยึดปุ่มกดเสียงโหวตของวุฒิสภา” ส่งสัญญาณเดินคนละทางกับ “สัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน” แถมขับเคลื่อนด้วยคำอธิบายที่ “คลุมเครือ” แต่ “ทรงพลังอำนาจที่สร้างความกลัว” จน “พรรคร่วมรัฐบาล” พากันอ้ำอึ้ง และถึงขั้นน่าจะยอมจำนน “เลือกตั้งแล้วยังสิ้นหวังเหมือนเดิม”
ชโลทร
แลกความคิดเห็น – พงศ์พันธ์ แก้วตาทิพย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการงบประมาณด้านการวิจัยและนวัตกรรมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี พร้อมเยี่ยมชมตัวอย่างผลงานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุน ววน. ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เมื่อเร็วๆ นี้
มอบรางวัล – ริคาร์โด้ โบอารอตโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ประเทศไทย และซันนี่ ชิดิด รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบริหารสินค้าธุรกิจค้าส่ง บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด พร้อมด้วยพักตร์วิภา คงทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) และพงศ์พัฒ สุวรรณดำรง ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ร่วมกันมอบรางวัล บัตรกำนัลคอร์สเรียนระยะสั้นที่ สถาบันเดอะ ฟู้ด สคูล แบงคอก “The Food School Bangkok” ให้แก่ลูกค้าสมาชิก ณ โก โฮลเซลล์ สาขารามคำแหง เมื่อเร็วๆ นี้
ประมูลผลงาน – พรนฎา นิวาตวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีพีพีดับเบิลยู ซัพพลายส์ จำกัด จัดงาน VESPARTE HE(ART) BEAT เชิญ 7 ศิลปินคนดังมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะลงบนเวสป้าในสไตล์ของตัวเอง พร้อมจัดให้มีการประมูลผลงาน เพื่อนำรายได้หลังหักค่าจ่ายมอบให้มูลนิธิโรคหัวใจเด็ก 3 แห่ง ณ ATT19 เจริญกรุง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2567
ผู้บริหารยอดเยี่ยม – พญ.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS พร้อมด้วย นฤมล น้อยอ่ำ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และอรรจยา อินทรประสงค์ AVP ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ ร่วมรับรางวัลผู้บริหารยอดเยี่ยมจาก สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ในงาน “IAA Awards: Awards for Listed Companies 2024” ณ ห้องแกรนด์ฮออล์ โรงแรม ดิ
แอทธินี โฮเทล แบงค็อก เมื่อเร็วๆ นี้
รับรางวัล – พิพัฒน์ ชลอำไพ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง เป็นประธานมอบรางวัลและตราสัญลักษณ์ “MEA ENERGY AWARDS ปีที่ 7” ตามโครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร ให้กับโรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ โดยมี สมบัติ บุญช่วย ผู้จัดการฝ่ายวิศวกร เป็นตัวแทนรับมอบ ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เมื่อวันก่อน
