| ผู้เขียน | ชโลทร |
|---|
เรียงคนมาเป็นข่าว ภาพข่าวสังคม 15 ตุลาคม 2567
⦁…อย่างรวดเร็ว “เดือนแรกในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้” ผ่านไปแล้วครึ่งเดือน คณะรัฐมนตรีที่มี แพทองธาร ชินวัตร นั่งหัวโต๊ะผ่านเรื่องราวมากมาย “แจกเงิน 10,000 บาท” ให้กับ “ผู้พิการและคนในบัญชีบัตรคนจน” ที่เรียกว่า “กลุ่มเปราะบาง” ไปเรียบร้อย ท่ามกลางการรอคอยของ “ผู้มีความหวัง” จากที่ไปลงทะเบียนใน “โครงการดิจิทัลวอลเล็ต” ไว้ เริ่มมีเสียงขู่ออกมาแล้วว่า “หากไม่ได้ละน่าดู” แต่ยิ่งนับวันโปรเจ็กต์นี้สะท้อนปัญหาบานตะไท ด้วยไม่เป็นไปในรูปแบบของ “นโยบายที่หาเสียงไว้”
⦁…แนวทางการจัดการ “เศรษฐกิจประเทศ” ที่กลายเป็น “2 หัวที่ต้องรับผิดชอบ” มองไปคนละมุมที่แตกต่างกันทั้ง “ข้อเท็จจริง” และ “วิธีการจัดการ” ขณะที่ “รัฐบาล” โดยเฉพาะ “พรรคเพื่อไทย” เห็นว่า “วิกฤตของประเทศ” นั้น “สาหัส” ต้องใช้ “ยาแรง” ทุกขนานเข้าควบคุมอาการ แต่ “แบงก์ชาติ” มองไปอีกด้าน “ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องไปแทรกแซงกลไกทางการเงินให้ผิดปกติ” ขณะกระแสความคิดของสังคมกระหึ่มไปในทางเห็นดีเห็นงามกับ “ความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ” ทำให้ ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ที่ชัดเจนว่าตั้งป้อมสวนหมัดรัฐบาล ได้รับการปกป้องเป็นพิเศษจาก “อำนาจรัฐที่เหลื่อมซ้อน”
⦁…การแต่งตั้ง “บอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย” แม้รับรู้กันอยู่ว่า “พรรคเพื่อไทย” ต้องการให้ไปทางไหน แต่จนป่านนี้ยังยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก ไม่เพียงถูกต้านจาก “อำนาจเหลื่อมซ้อน” ที่อ้างว่าจะทำให้ “เกิดการแทรกแซง” และอย่าว่าแต่ “พรรคร่วมรัฐบาล” ที่วางท่าทีธุระไม่ใช่ และ “กลไกราชการ” ที่เดาไม่ถูกว่ายืนอยู่ข้างไหน แม้ “รัฐมนตรีที่เป็นแม่งาน” ยังได้แค่อ้อมแอ้ม แนะนำให้ “คุยกัน” ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า “คุยไม่รู้เรื่อง” ขณะที่ทุกฝ่ายรู้ดีว่า หากจัดการให้เอกภาพของการบริหาร “การเงินกับการคลัง” ให้ไปในทิศทางที่สอดคล้องกันไม่ได้ แนวโน้ม “ประชานิยม” ที่ผลงานคือ “กระตุ้นเศรษฐกิจสำเร็จ” แทบไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้เลย
⦁…เพราะทุกปัญหาดูจะขยายตัวรวดเร็ว ทำงานมาไม่กี่เดือน แต่ความรู้สึกต่อ นายกฯอุ๊งอิ๊ง หลายกลุ่ม หลายคนทำท่าเหมือน “ทนไม่ไหวต่อไปแล้ว” เสียงเรียกให้ดู “หนี้สินพอกพูนที่ทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไปไม่รอด” อันเป็นนโยบายที่ประกาศไว้ แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า ขณะ “การแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ที่เป็น “สัญญาประชาคม” กลับถูก “พรรคร่วมรัฐบาลดึงเบรกหัวทิ่มหัวตำ” จนวิจารณ์กันขรมถึง “อำนาจต่อรองของพรรคเพื่อไทย” ส่วน “การทำมาหากินด้วยการลวงหลอก” ไม่ได้อยู่ “มหาโจรคอลเซ็นเตอร์” ยังระบาดโดยมองไม่เห็นว่า “ใครจะจัดการอะไรได้” โผล่ขึ้นมาด้วย “ขบวนการเครือข่ายขายตรงแชร์ลูกโซ่” ที่หลอกผู้คนให้ “ลงทุนในธุรกิจที่ลูกข่ายมีแต่เจ๊ง” ขณะ “เจ้าของเครือข่ายและดารารับจ้าง” ร่ำรวยกัน “ผิดมนุษย์มนาที่ทำมาหากินสุจริตปกติ” ท่ามกลางความอ่อนแอของการบังคับใช้กฎหมาย ที่จนป่านนี้ยังเงอะงะ กระทั่ง “ตั้งข้อหาอะไร” ยังคิดไม่ออก บอกไม่ถูก
⦁…ที่มันหยดติ๋ง คือหลังพิสูจน์ชัดเจนครั้งแล้วครั้งเล่าว่า “ควบคุมเสียงโหวตวุฒิสภาสำเร็จ” เหมือนจะส่งผลว่า แม้จะมีแค่ 65 เสียง ใน รัฐบาล 322 เสียง แต่ทำท่าว่า “ภูมิใจไทย” จะยก “อำนาจการต่อรอง” ขึ้นผู้กำหนดทิศทางการบริหารประเทศ สะท้อนจากคำถามต่อ อนุทิน ชาญวีรกูลเรื่อง “นายกรัฐมนตรีคนละครึ่ง” ของกลุ่มนักข่าวที่ใกล้ชิด เข้าถึง “ข้อมูลลึกในทำเนียบรัฐบาล” ซึ่งเคยทำให้เห็นมาแล้วหลายครั้งว่า “จับสัญญาณความผิดปกติได้แม่นยำ”
⦁…ใน “โครงสร้างอำนาจ” ที่ระดมทุกกลไก โอบล้อมเข้าถล่ม “พรรคประชาชน” ไม่มีทางเข้ามีส่วนในอำนาจรัฐได้ ทำให้แม้จะมีการมองว่า เป็นการเมือง “3 ก๊ก” แต่การเลือกตั้งครั้งหน้าจะสู้กันแค่ “ก๊กเพื่อไทย” กับ “ก๊กพรรคร่วมรัฐบาลดั้งเดิม” ที่มี “ภูมิใจไทย-รวมไทยสร้างชาติ-พลังประชารัฐ” เป็นขบวนของ “พรรคพร้อมผสม” ที่เหลือ ดังนั้นแม้ “เซียน” ระดับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จะโฟกัสว่าเป็น “เกมยาก” ของ “พรรคประชาชน” ที่มีแต่ต้อง “ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว” ให้ได้ แต่ถึงเวลาตั้งรัฐบาลจริง หากเสียง “เพื่อไทย” ได้มาไม่มากกว่า “พรรคพร้อมผสม” ที่มี “ภูมิใจไทย” เป็นหัวขบวน น่าคิดว่า “นายกรัฐมนตรี” หลังการเลือกตั้งปี 2570 ชื่ออะไร
⦁…ใน “กติกาและกลไกควบคุม” ที่บล็อก “พรรคประชาชน” ให้อยู่ได้แค่ “เก้าอี้ฝ่ายค้าน” โดยไม่ต้องลงทุนทำ “รัฐประหาร” คำถามคือ สำหรับ “ผู้ออกแบบโครงสร้างอำนาจ” พรรคไหนให้ความโล่งใจใน “เก้าอี้นายกรัฐมนตรี” มากกว่า การเมืองในสภาพเช่นนี้ “เพื่อไทย” มีแต่เหนื่อยหนัก ที่จะต้องสร้างผลงานฟื้นกระแสความนิยมคืนมาให้ได้ จึงไม่แปลกที่ ทักษิณ ชินวัตร ต้องเคลียร์กับ เนวิน ชิดชอบ แต่เนิ่นๆ ด้วยเกมนี้ “ภูมิใจไทย” เล่นง่ายมาก แต่ “รักษากติกาและกลไกอำนาจเดิม” ไว้ ต้อง “ไม่ปล่อยให้มีการแก้ไข” ซึ่งวันนี้ชัดแล้ว “ทำได้” ด้วยแน่นอน ด้วย “ความสามารถในการกดปุ่มเสียงโหวต ส.ว.”
ชโลทร
ปิดเทควันโด – สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดเทควันโด รายการ Bluport x Legend Taekwondo Championships 2024 ครั้งที่ 3 ที่บลูพอร์ต ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้า บลูพอร์ตหัวหิน โดยมี เยาวภา บุรพลชัย ผู้บริหาร เดอะ เลเจ้นด์อารีน่า, พลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน, มุจรินทร์ น้ำคำภา ผอ.ฝ่ายขาย สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล เข้าร่วม เมื่อเร็วๆ นี้
ดูแลรักษาโรคหัวใจ – เปโดร สวาห์เลน เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน “Cardio Catalyst: Driving Change in Heart Health” ครั้งที่ 2 โดย สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และเควิน โจว Head, Asia Aspiring Cluster, Novartis International ร่วมเปิดงาน ณ สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้
คว้ารางวัล – ภูกิจ ดิศธรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด เข้าร่วมรับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านองค์กรนวัตกรรม (ขนาดกลาง) จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ประจำปี 2567 มี กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นผู้มอบรางวัล โดยมี อุกฤษฎ์ ตั้งสืบกุล, พงษ์ทิพย์ เทศะภู, รุ่งโรจน์ โชคงามวงศ์, ศรุต อุดมการณ์ ร่วมงาน ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ เมื่อเร็วๆ นี้
มอบรางวัล – อรรถกร เนตร์เนรมิตรดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลไล รีท แมนเนจเมนท์ จำกัด มอบรางวัลห้องพักหรู ทูลานี รีสอร์ท กุยบุรี (Tolani Resort Kui Buri) จำนวน 3 รางวัล ให้แก่ ปิยะวรรณ องค์แสงเพชร, กิตติพงษ์ พงษ์สวัสดิ์ และศิวรัตน์ เกรียงสันติกุล สำหรับผู้โชคดีในแคมเปญ “ALLY SHOP DELIGHT 2024” รวมร้านดี สไตล์โดนใจ ช้อปสนุก โดยมี พจนีย์ จันทร์หอม หัวหน้าฝ่ายงานพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท อัลไล รีท แมนเนจเมนท์ จำกัด ร่วมยินดี ณ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) เมื่อเร็วๆ นี้
ฉลอง 20 ปี – เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 20 ปี Belotero เปิดตัวแคมเปญล่าสุด “Fill For All เติมคุณ เปลี่ยนคุณ” ที่จะปฏิวัติวงการฟิลเลอร์ไปตลอดกาล! พร้อมดึง 4 เก้า นพเก้า, กองทัพ พีค, ไมกี้ ปณิธาน และเทศน์ ไมรอน นั่งแท่น “Brand Squad” ยึดแนวคิด “Beauty Boy” เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายและครอบคลุม เมื่อเร็วๆ นี้
