⦁…เข้าฤดูเลือกตั้งเต็มตัว ‘4-8 กุมภาฯ’ เปิดโต๊ะรับสมัคร ส.ส. ‘เปิดคูหากาบัตร 24 มีนาฯ’ ทันทีที่พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส.บังคับใช้ พรรคใหญ่ กลางทุกไซซ์ เปิดศึกชิงพื้นที่ปูทางลงสนาม เพื่อไทยโหมโรงใช้การเมืองนำ ชุดใหญ่ไฟกะพริบ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ภูมิธรรม เวชยชัย โภคิน พลกุล ชูศักดิ์ ศิรินิล ออก-อ่านแถลงการณ์ เรียกร้องรัฐบาลใช้อำนาจเสมือนรัฐบาลรักษาการ งดริเริ่มโครงการใหม่ใช้งบผูกพัน หรือจำนวนมากในลักษณะสร้างความนิยมทางการเมือง ต้องไม่โยกย้ายและแต่งตั้งข้าราชการ ส่งผลกระทบต่อเลือกตั้ง รุก คสช. ‘งดเว้นใช้
ม.44’ จี้รัฐบาลต้องรักษาความเป็นกลางทางการเมืองโดยเคร่งครัด ขอ กกต. ทำให้การเลือกตั้งเสรี เป็นธรรมและน่าเชื่อถือ
⦁…5-6 ประการที่ตั้งโต๊ะแถลง ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ขั้วนี้ฝ่ายนี้ เห็นว่าเกิดความได้เปรียบ เสียเปรียบ ‘หากตัดตัวลักลั่นออกได้ ก็สู้ได้’ ชนะเลือกตั้งได้สบายมือ
⦁…ขณะที่พลังประชารัฐ อุตตม สาวนายน นำทัพใหญ่ จัด
อีเวนต์ โชว์นโยบาย อาสาพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง แบ่งสี สุวิทย์ เมษินทรีย์ ลาพักร้อนในตำแหน่งว่าการวิทย์ฯ สวมบทรองหัวหน้า แถลงชู
ต่อยอด 7 สวัสดิการประชารัฐ บัตรคนจน ปลดหนี้แรงงาน ชาวนา ขรก.ใน 5 ปี บ้านล้านหลัง สิทธิที่ดินทำกิน หลักประกันการศึกษาถ้วนหน้า กระจายความเจริญ อีอีซีเฟส 2 ไปยังภูมิภาคอื่น แตกสาขาเป็นอีสาน 4.0 ล้านนา 4.0 ด้ามขวาน 4.0 ฯลฯ นโยบายนี้ ‘ไม่ใช่เอาของเก่ามาขาย’ พลังประชารัฐอธิบายออกตัว แต่เป็นการตอบโจทย์ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ หากจะมีคำถาม จัดหนักทั้งที กลับไม่มีทีเด็ดโชว์ คำตอบที่ได้ คงทำนองว่า นี่แค่กรอบนโยบาย ช็อตต่อไปค่อยมาดูอีกที ‘ดีแต่ปัดฝุ่น หรือใหม่ซิง’ นวัตกรรมล้ำก็เยอะ ไม่ธรรมดา สมค่าพรรคเต็ง
⦁…เพื่อไทย พลังประชารัฐ และ ประชาธิปัตย์ ถูกจัดอยู่ในตำแหน่งโพลโพซิชั่น แถวหน้าสนามแข่งขัน จำนวนที่นั่งที่เคลมกันวุ่นขณะนี้ มีทั้งที่มาจากทำโพล และ ‘ตัวเลขโม้ ปั่นหุ้น’ แต่ว่ากันตามคอการเมือง สายมิดฟิลด์เห็นเป็นจ่ายทำนาย แท่นสูงสุดมี เพื่อไทย ยืนอยู่ข้างบน ขนาบข้างด้านซ้าย ประชาธิปัตย์ และขวา พลังประชารัฐ แต่วงใน ‘บิ๊กปึ๊ก
บิ๊ก’ กลับมั่นใจมาก พลังประชารัฐใช่จะแรงแค่ ปาดแซงสับตำแหน่งกับประชาธิปัตย์ แต่จะ ‘ขยับขึ้นแท่นสูงสุด’ ต่อให้ ‘10 แม้ว 10 ปู’ ก็ฉุดไม่อยู่ มีอะไรดีถึงมั่นขนาดนั้น ก็ไม่รู้
⦁…แต่ที่แน่ๆ เลือกตั้งครั้งนี้เดิมพันสูง แพ้ไม่ได้-เสียของทั้งคู่ ยิ่ง ‘พลังประชารัฐ’ ดัน ‘บิ๊กตู่’ อยู่ในบัญชีนายกฯ ก็ต้องสู้ เป้าหมายคือ ‘ชนะเลือกตั้งสถานเดียวเท่านั้น’ แต่ในสนามที่ไม่เจนจัด ได้เปรียบอย่าง-เสียเปรียบอย่าง ว่ากันว่า ‘ถ้าเป้าแตก ไม่เข้าเป้า’ คล้องทองแดงมาแค่ที่ 3 ถึงท้ายที่สุดจะรวบรวมเสียงตั้งรัฐบาลได้ ก็เหนื่อย-หืดจับ ไล่ตามความชอบธรรมจากที่ 1 มาที่ 2 จบที่อันดับสามตั้งรัฐบาล ก็โจทย์นี้ไง ถึงมี 250 ส.ว.แต่ถูกบังคับให้ชนะ ‘แย่สุดก็ต้องที่สอง’ ไถลออกนอกรันย์เวย์ อันดับ 3 ไม่ได้ เสี่ยงอุบัติเหตุ
ปักหมุด
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่